สวิงโปรก็อต จังหวะ Delay Hit สวยมาก

          สมัยผมอายุ 20 ต้น ๆ ช่วงจนปริญญาตรีใหม่ๆ แล้วเริ่มเล่นกอล์ฟ ตอนนั้นซ้อมหนักมาก ส่วนใหญ่จะซ้อมที่สนามไดรฟมหาเมฆ หรือ สนามไดรฟอารี ซึ่งปัจจุบันทั้ง 2 สนามปิดไปแล้ว ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของ ส.ส.ส. และ K-Village ตามลำดับ  ยุคนั้นก็จัดว่าตัวเองตีไกลพอสมควร (ไกลในก๊วนตัวเอง) ตีชนป้ายสนามไดรฟอารีประจำ ตอนนั้นคิดว่าตัวเองไดรฟได้ 300 หลา แน่ๆ เหล็ก 7  ตี 150 หลา ตอนนั้นถูกแวดล้อมด้วยคำชื่นชมของคนในก๊วนที่น่าจะหลอกชมไปกินเราไป หลอกว่าเราไดรฟไกลมาก

            ผมมารู้ตัวอีกทีตอนมาจ่ายเงินเรียนกอล์ฟกับโปรหนุ่มและโปรบอยที่ประจำอยู่ที่สนามไดรฟสุขุมวิทซอย 18 ยุคที่ยังลากเส้นวิเคราะห์สวิงบนทีวีจอแก้วอยู่  ระยะเหล็ก 7 ขึ้นไปอยู่แถว 170 ได้ ไกลกว่าเดิม 20 หลา มีวันนึงผมกลับไปไดรฟที่ 2 สนามไดรฟนั้น พบว่าผมสามารถตีให้ถึงระยะไดรเวอร์ตัวเองด้วย หัวไม้ 3 เท่านั้น ระยะหัวไม้ 3 ของผม ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน  หรือช่วงพีคที่สุดไม่เคยเกิน 265 หลา คำถามคือ แล้ว 300 หลา ที่ผมมโนเองนั้นมาจากไหน โง่ ชิ หาย (ถ้าเพื่อนสนิท ให้อ่านว่า โง่ ฉิบ หาย โดนหลอกชมไปกินไปซะแล้ว )

            ผมมาถึงบางอ้อ เมื่อตอนที่คุณเบล เจ้าของร้านบิ๊กเบลที่สนามไดรฟกอล์ฟสามพราน นำเครื่อง Launch Monitor ตัว Golf  Achiever เข้ามาฟิตติ้งไม้กอล์ฟภายใต้แบรนด์ T-Zoom  ตอนที่ผมเข้าเครื่อง Launch Monitor ครั้งแรก ก็เพิ่งจะเห็นสัจธรรมว่าที่สปีดไม่ถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ไม่มีทางที่จะไดรฟถึง 300 หลาแน่นอน  ถ้าพื้นไม่แข็ง ลูกไม่เด้งถนน ตามลมไม่พอ ทีออฟไม่สูง ไม่ได้ไดรฟอยู่แถวคุนหมิง ไม่มีทางถึง 300 หลาแน่นอน ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ความเร็วหัวไม้  มุมเหิน และ อัตราสปิน  หลังจากวันนั้น ผมก็ฝันถึงการได้ครอบครองเครื่อง Launch Monitor มาตลอด เพราะมันน่าจะช่วยให้เราตีได้ไกลถึง 300 หลา แบบจริงๆ  ไม่ได้มโนไปเอง

            สมัยนั้น ผมต้องจดค่ามุมเหินที่เหมาะสม และอัตราสปินออกมาจากตารางที่ห้อยหรือแปะไว้ข้างเครื่อง Achiever เพื่อซ้อมให้ตีไกลที่สุด ในวิถีที่เหมาะสม จริงๆ ต้องจำให้ได้ด้วยว่า วิถีที่เหมาะสมตามข้อมูลในเครื่อง มันจะเป็นยังไง สูงแค่ไหน ต้องใช้ตามองเอาเอง 

            ผมมาได้เครื่อง Launch Monitor เครื่องแรกปี 2548 เมื่อ 11 ปีที่แล้ว ชื่อเครื่อง Vector Launch Monitor เครื่องนี้เด็ดกว่า Achiever ตรงที่ค่าอัตราสปินที่แสดงออกมาค่อนข้างแม่น และยังมีโปรแกรมในเครื่องให้เราลองป้อนตัวแปรต่างๆ ของเรา เพื่อหาค่าที่ทำให้เราไดรฟได้ไกลที่สุด ตอนนั้นฟิตมาก ทำทดสอบเครื่องว่าแม่นขนาดไหน ในการทดสอบกลางแจ้ง จัดกิจกรรมหลายอย่างเพื่อให้คนมาใช้เครื่องเรา และขอเก็บข้อมูล ดูข้อมูลคนอื่นไปด้วย เพลินดี ยุคนั้น ผมดูวิถีลูก แล้วสามารถที่จะทายได้ว่า ลูกไดรฟเมื่อกี้นี้ มุมเหินเท่าไหร่ สปินเท่าไหร่ ความเร็วหัวไม้เท่าไหร่ ทายได้ใกล้เคียงมาก ทายก่อนที่เครื่องจะแสดงผลออกมา จนผมมักจะพูดเล่นๆ กับคนที่สนิทด้วย ไม่ต้องไปดูค่าใน Vector หรอก ผมนี่แหละคือ Vector เรื่องนี้ ไม่ได้พูดเกินจริง เพราะวันที่ผมนำเครื่องนี้ไปขออนุญาติเก็บข้อมูลโปรช้าง ธงชัย ใจดีที่ลพบุรี โปรช้างก็สามารถทายผลการตีออกมาได้อย่างแม่นยำ ทั้งความเร็ว มุมเหิน และสปิน และสามารถสั่งได้ว่า จะตีไดรเวอร์สปินเท่าไหร่ที่มุมเหินเท่าไหร่ ตั้งแต่ 1 พันต้นๆ จนถึง 2 พันกลางๆ สมัยนั้น สปีดโปรช้าง 114 MPH อัตราสปินไม่เกิน 2,500 RPM ส่วนมุมเหิน โปรช้างบอกว่า แล้วแต่สนามที่ไปเล่น ถ้าเล่นในอเมริกาจะตีมุมสูง เพราะต้องอาศัยการแครี่เอา ถ้าเล่นในยุโรปจะตีมุมต่ำ เพราะลมแรง แฟร์เวย์เฟิร์ม ตกแล้ววิ่ง  โดยเฉลี่ยค่าต่างๆ ของโปรช้าง ตอนที่ผมใช้ Vector วัดข้อมูล มุมเหินแถวๆ 11-14 องศา ที่สปีดนี้ 114 MPH โปรช้างก็บอกว่า ถ้าไม่ได้มีสภาพแวดล้อมอื่นๆ ช่วย ระยะก็จะอยู่แถวๆ 280-290 หลา

             ในยุคสมัยนั้น เรื่อง มุมเหิน กับ อัตราสปินที่เหมาะสม เป็น 2 คีย์หลักที่คุยกันในการตีให้ไกล

            จนมาปี 2554 ผมมาได้เครื่อง FlightScope X2 รุ่นท๊อปสุดของ FlightScope ในยุคนั้น ได้ตัวนี้มา ทำให้ผมปลดล็อคทุกอย่างที่เคยเข้าใจผิดมาหลายๆ เรื่อง การได้เครื่องตัวนี้มาทำให้ผมรู้จักตัวแปรในการตีไกลเพิ่มขึ้นอีกตัวคือ Smash Factor ซึ่งใน Vector ต้องกดเครื่องคิดเลขคำนวณเอง แต่ก็ไม่ได้แม่นมาก เพราะระบบของ Vector คำนวณความเร็วลูกกอล์ฟเป็นหลัก แล้วใช้สูตรคำนวณแปลงกลับมาเป็นความเร็วหัวไม้ แต่สำหรับ FlightScope X2 จะ Track ได้ทั้งลูกกอล์ฟและการเคลื่อนที่ของหัวไม้

            และแน่นอนว่า เมื่อได้เครื่องมา ผมก็ตระเวนทดสอบความแม่นยำเครื่องเหมือนเดิม โดยทดสอบตั้งตีจริงในสนามกอล์ฟกลางแจ้ง ซึ่งผมรู้ระยะต่างๆ บนแฟร์เวย์เรียบร้อยแล้ว  การทดสอบกับเครื่อง Launch Monitor ด้วยตัวเอง กับการยืนดูคนอื่นตี มาตลอด 10 กว่าปี ทำให้ผมตกผลึกและมีมุมมองอะไรบางอย่างจากประสบการณ์ 11 ปีของผมในเรื่องการตีไกล  โดยเฉพาะเรื่องที่ท่านทั้งหลายกำลังสนใจมาตลอดชีวิตการเล่นกอล์ฟ 300 หลาทำอย่างไร ทำได้จริง มันฟินมากๆ เสียตังค์เท่าไหร่ไม่รู้ แต่ขอให้เพื่อนยอมรับว่าเราตีไกล (นั่นสมัยนั้นครับ สมัยนี้แก่แล้ว โดนกินมาเยอะ ไกลก็โอเค  ไม่ไกลก็ช่างมัน ขอกินเพื่อนไว้ก่อน)  

สปีด 90 MPH ทำอย่างไรจะตีให้ถึง 300 หลา

            เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมตั้งคำถามว่า ถ้ามีความเร็วหัวไม้ 90 MPH จะต้องทำอย่างไร ? ในการตั้งคำถามนั้น ผมอยากที่จะให้ท่านนักกอล์ฟลองเข้าไปกด คีย์ตัวเลขต่างๆ ในโปรแกรมที่ให้เล่นฟรีๆ ในเวบ http://flightscope.com/products/trajectory-optimizer/ เพื่อทำให้ท่านหาคำตอบเรื่องนี้ให้กับตัวเอง 2 เรื่อง คือ

            1.ที่สปีด 90 MPH ไม่มีทางถึง 300 หลา ถ้าไม่มีสภาพแวดล้อมอื่นๆ ช่วย เช่น พื้นแข็งเป็นปูน ตามลมอย่างกับพายุ ตีอยู่บนสนามกอล์ฟที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ  แท่นทีออฟอยู่สูงกว่าแฟร์เวย์มากๆ ตีบนดาวอังคาร เป็นต้น ย้ำว่าที่สปีด 90 MPH ไม่มีทางถึง 300 หลาครับ

            2.ท่านนักกอล์ฟสามารถเข้าไปคีย์ข้อมูลตัวเอง เพื่อค้นหาว่า ตัวเองจะทำระยะสูงสุดที่เป็นไปได้ที่ระยะกี่หลา เรื่องนี้สำคัญมาก นักกอล์ฟหลายท่าน ไม่ทราบระยะแครี่จริงๆ ของตัวเอง จำแต่ระยะเบ็ดเสร็จที่เห็นลูกหยุดบนแฟร์เวย์ แล้วใช้การคำนวณ ระยะรวมหลุมลบระยะที่เหลือขึ้นกรีน คือระยะไดรฟเรา การไม่รู้ระยะแครี่ที่แท้จริงๆ ทำให้การคำนวณเพื่อตีข้ามอุปสรรคต่างๆ เช่น น้ำ บังเกอร์ ผิดพลาด ทำให้ตกเข้าไปในอุปสรรค ถ้าท่านรู้ระยะแครี่จริงๆ ทุกบังเกอร์ ทุกน้ำ ทุกอุปสรรค ถ้าท่านเช็คแล้ว ข้ามได้  ท่านจะตีข้ามไปได้ โดยไม่กังวลนัก

            ผมได้แสดงความเห็นไปแล้วว่า ที่สปีด 90 MPH การตีให้ถึง 300 หลา ไม่มีทางเป็นไปได้ ในสถานการณ์ปกติ แต่เมื่อตั้งคำถามแล้ว ก็ต้องตอบให้ได้ว่า ทำอย่างไรสปีด 90 MPH ถึงจะตีได้ 300 หลา

            ที่สปีด 90 MPH ถ้าจะตีให้ถึง 300 หลา เลย ต้องประกอบไปด้วย 5 ข้อ ดังต่อไปนี้

            1.ท่านต้องสร้าง SMASH FACTOR ได้สูงสุด คือ 1.52 จะทำให้ท่านสร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้ 136.8 MPH

            2.ท่านต้องไปไดรฟอยู่บนที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลอย่างน้อย 11,700 ฟุต ราว 3,567 เมตร (เก็นติ้งคาสิโน สูงราว 1,800 เมตร)

            3.มุมเหินต้องอยู่ที่ระดับ 23 องศา

            4.อัตราสปินอยู่ระดับ 1,000 RPM (ห้ามเกิน)

            5.พื้นแฟร์เวย์ต้องแข็งมาก เพื่อให้ตกแล้วยังวิ่งได้อีกร่วม 40 หลา

5 ข้อต่อไปนี้ ต้องทำให้ครบทุกข้อ ห้ามขาดแม้แต่ข้อใดข้อหนึ่งครับ ถ้าขาดบางข้อ ต้องมีลมท้ายดังฟงอวิ๋นขี่พายุฟ้า ช่วยส่งครับ

ข้อ 2 ดูจะยากที่สุด เพราะสนามกอล์ฟที่ผมเช็คข้อมูลมาว่า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากๆ อยู่ที่ภูฐาน ซึ่งตามข้อมูล https://www.wunderground.com/cgi-bin/findweather/getForecast?query=27.484955%2C89.634018&MR=1 ความสูงจากระดับน้ำทะเล พื้นที่ทั่วๆ ของประเทศนี้อยู่ที่  7,331 ฟุต  ซึ่งยังสูงไม่พอ ขาดไป 4,369 ฟุต ราว 1,332 เมตร  น่าจะสูงจากพื้นปกติขึ้นไปบนภูเขาสูงคล้ายๆ กับ เก็นติ้ง คาสิโนที่อยู่ในมาเลเซีย ผมลองดูข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เจอสนามที่มีความสูงพอเป็นไปได้ อยู่ที่ภูฐาน ชื่อสนาม Royal Thimpu Golf Course ตามข้อมูลในเวบไซท์ สนามนี้สูงกว่าระดับน้ำทะเลราว 7,700 ฟุต (2,348 เมตร) http://http://royalthimpugolf.golfgaga.com/

สนามกอล์ฟ Royal Thimpu Golf Course สูงกว่าระดับน้ำทะเล มากกว่า 7,700 ฟุต

ความสูงที่อื่นๆ ตามข้อมูลของ wunderground 

Bangkok                     47 Ft

Chiang Mai                1,004 Ft

Chiang Rai                  1,280 Ft

Lampang                     794 Ft

Nakhon Ratchasima     617 Ft

Kunming                     6,206 Ft

Thimphu Bhutan         7,331 Ft

            ผมขอเคลียร์ประเด็นการตั้งคำถามนี้ก่อนว่า ทำไมผมถึงตั้งคำถามลักษณะนี้ขึ้นมา ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่า ถ้าบังเอิญท่านนักกอล์ฟเคยโชคร้ายไปเห็น การโฆษณาไม้กอล์ฟที่ไม่สร้างสรรค์บอกสรรพคุณไม้กอล์ฟเวอร์ๆ ตีไกลใกล้ๆ 300 หลาได้ ทั้งที่สปีดไม่สูงนัก แล้วทำให้คุณฝังใจ ว่า สักวันคุณจะเจอไดรเวอร์วิเศษแบบนั้นในตลาดจริงๆ ไดรเวอร์แบบนั้นมันไม่มีจริงครับ   แม้ว่าไม้นั้นๆ จะเด้งขนาดไหน ผมก็ยังไม่เคยเห็นเครื่อง Launch Monitor วัดค่า Smash Factor เกิน 1.52 เลย ผมน่าจะแค่เคยเห็น รูปภาพ Smash Factor 1.53 แค่เพียงครั้งเดียวในอินเตอร์เนท แต่ไม่เคยเห็นกับตาตัวเองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ฉะนั้นหากความเร็วลูกกอล์ฟไม่ได้ถูกทำให้เพิ่มขึ้นจนมีนัยะสำคัญแล้ว เด้งขนาดไหน ก็ไม่ถึง 300 หลาครับ เต็มที่เลยที่พอจะทำได้ที่ความเร็ว 90 MPH ความสูงระดับน้ำทะเลบ้านเรา พื้นแข็ง ระยะสูงสุดที่เป็นไปได้ของสปีดนี้คือ 260 หลา รวมวิ่งเรียบร้อยแล้ว 

          การตั้งคำถามให้เสี่ยงโดนด่าเช่นนี้ ซึ่งก็น่าจะโดนไปแล้ว เพราะผมไม่อยากให้ท่าน เสียรู้ กลไกการตลาด การโปรโมทแบบไม่สร้างสรรค์ ทำให้ท่านเสียเงินซื้อไม้กอล์ฟที่คิดว่าจะตีไกล แต่จริงๆ แล้วก็ตีไม่ไกลอย่างที่เราคาดหวังไว้

ถ้าต้องการไดรฟระยะ 300 หลา ต้องทำอย่างไรบ้าง

            ถ้าผมตั้งคำถามลักษณะนี้ขึ้นมา การหาคำตอบจะง่ายขึ้นมากครับ จริงๆ แล้ว ท่านสามารถไปป้อนตัวเลขต่างๆ ในนี้ได้เองครับ http://flightscope.com/products/trajectory-optimizer/  แต่ผมจะลองใช้โปรแกรมนี้ป้อนตัวเลขและคำนวณให้ท่านดูกันครับ โดยการใช้ความสูงของกรุงเทพเป็นหลักครับ และคำตอบของเรื่องนี้ เราจะไม่คิดว่ามีลมส่งท้ายช่วยดันให้ลูกไปไกลกว่าปกติ

ความเร็วหัวไม้น้อยที่สุดที่จะตีให้ได้ 300 หลา เท่าไหร่

            ผมเชื่อว่าหลายคนก็อยากรู้ว่า ความเร็วขั้นต่ำที่จะตีให้ถึง 300 หลา นั้น คือเท่าไหร่

           คำตอบคือ ความเร็ว 103.42 MPH ครับ แต่ที่ความเร็วนี้ ไม่ใช่จะถึงแบบสบายๆ ต้องมีเงื่อนไขอื่นประกอบด้วยคือ

          1.Smash Factor ต้องขึ้นเต็มคือ 1.52

          2.พื้นแฟร์เวย์ต้องแข็งพอให้ลูกตกแล้ววิ่งอีก 30 หลา พื้นนุ่มๆ หมดสิทธิ์

          3.มุมเหิน 14.1 องศา

          4.อัตราสปินไม่เกิน 1,000 RPM

          ต้องทำให้ครบทั้ง 4 ข้อ ห้ามขาดห้ามเกิน ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่ง เหมือนเดิมครับ ต้องพึ่งพาลมส่งท้าย ฟงอวิ๋นขี่พายุทะเลฟ้า 

ถ้าท่านสังเกตข้อมูลข้างบนดีๆ ในความเป็นจริงๆ ความเร็วเพียง 103.42 MPH ก็อาจตีให้ถึง 300 หลายากอยู่ดี เพราะถ้าสังเกตตัวแปรหนึ่งคือ อัตราสปิน 1,000 RPM เป็นตัวเลขที่ในทางปฏิบัติทำได้ยากมาก ไม่ใช่ว่าตัวเลขนี้ผมจะไม่เคยเห็นครับ อัตราสปิน 1,000 RPM เคยเห็นอยู่ แต่อัตราสปินระดับนี้ มักมาพร้อมมุมเหินที่ต่ำครับ การตีมุมเหินทั่วๆ ทำอัตราสปินระดับ 1,000 ยากมาก ผมมักเจอแถวๆ 1,700-2,500 RPM ที่มุมเหินปกติถึงสูง

            ลองใหม่ ถ้าเราคิดว่า อัตราสปินไม่จำเป็นต้องต่ำไป ขอแบบที่พอเป็นไปได้ 2,500 RPM เป็นอัตราสปินที่ไม่ยากเกินความสามารถนักกอล์ฟ และถ้าเราไม่ต้องพึ่งพาพื้นแฟร์เวย์แข็งๆ ด้วย เอาแบบแฟร์เวย์ปกติ ตกแล้ววิ่งพอประมาณ ความเร็วหัวไม้ต่ำสุดที่จะไดรฟได้ 300 หลา อยู่ที่เท่าไหร่

            คำตอบคือ 111.64 MPH เหมือนเดิม ต้องมีเงื่อนไขอย่างอื่นประกอบด้วย 3 ข้อ

            1.Smash Factor ต้องขึ้นเต็มคือ 1.52

            2.มุมเหิน 13 องศา

            3.อัตราสปินไม่เกิน 2,500 RPM ครับ

ความเร็วหัวไม้เท่าไหร่ จึงตี 300 หลา ได้ทุกครั้งที่ต้องการ หรือ 300 หลาแบบชิลๆ 

            แต่ถ้าเราเปลี่ยนคำถามมาเป็น แล้วความเร็วไหนที่จะตี 300 หลา แบบชิลๆ อยากตีเมื่อไหร่ก็ทำได้

            คำตอบคือ 119.39 MPH มันคือความเร็วหัวไม้ของโปรรุ่นใหม่ๆ โปรในพีจีเอทัวร์ รวมถึงโปรอาร์ม กิรเดช อภิบาลรัตน์ ก็อยู่ในช่วงความเร็วที่สูงกว่านี้เล็กน้อยครับ

            ที่ความเร็วนี้ เราไม่ต้องการการตีที่เพอร์เฟคมาก สปินเกินไปได้เล็กน้อย 3,000 RPM ซึ่งเป็นอัตราสปินที่ผมเห็นบ่อยๆ เวลานักกอล์ฟพลังช้างเบ่งจนอิมแพ็คพลาดทำให้สปินสูงเกินมาตรฐาน ค่า Smash Factor ไม่ต้องขึ้นเต็มก็ได้ สัก 1.47 ยังพอไหว   ที่บอกว่าความเร็วระดับนี้ตี 300 หลา สบายๆ เพราะระดับความเร็วนี้ ไม่ต้องลุ้นวิ่งให้ถึง 300 หลา ครับ แครี่ก็ปาเข้าไป 300 หลาแล้วครับ เรื่องนี้เรื่องจริง เพราะผมเคยไปยืนอยู่ตรงเส้น 300 หลา ที่สนามซ้อมไดรฟบางไทร วันที่จัดแข่งกอล์ฟ TaylorMade One One Challenge ยืนดูทุกรอบตั้งแต่คัดเลือกยันรอบชิง นักกอล์ฟที่แครี่ถึง 300 หลา ได้ สปีดต้องระดับ 120 MPH ครับผม ต่ำกว่านี้แครี่ไม่ถึงเส้น 300 หลา ต้องอาศัยลูกวิ่ง หรือลมส่งท้าย 

โปรโน๊ต ความเร็วหัวไม้สูงสุด 138 MPH ที่สเปคไดรเวอร์ยาวกว่าปกติ

โปรบูม ความเร็วหัวไม้สูงสุด 128 MPH ที่ความยาวไดรเวอร์ปกติ

สรุปปัจจัย 4 ประการที่ทำให้นักกอล์ฟตีไกลระดับ 300 หลา

1.ความเร็วหัวไม้ขั้นต่ำต้อง 111.64 MPH ขึ้นไป สำหรับการตีหวังผลแบบถึงบ้างไม่ถึงบ้าง และ 119.39 MPH  สำหรับการตีที่ยังไงก็ถึง ถ้าไม่เจอลมต้านแรงๆ

2.Smash Factor อยู่ระหว่าง 1.47-1.52

3.มุมเหินอยู่ระหว่าง 13-14 องศา (มุมต่ำกว่านี้ ต้องลุ้นให้วิ่งให้ถึง และสภาพพื้นแฟร์เวย์ต้องแข็ง)

4.อัตราสปินไม่เกิน 3,000 RPM

เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

Chalermwong B.Kajorn

ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.

19 / 7 /2559

https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/

Official Line : @golferonline

Tags : ตีไกล , ไดรฟ 300 หลา , เทคนิคตีไกล , ไดรเวอร์ , Driver , Drivers , Wood , Woods , หัวไม้ , หัวไม้ 1 , FlightScope , LongestDrive , Longest Drive , Long Drive , LongDrive Power PowerTips Power Tips PowerTip PowerTip

Related to

สอบถามเพิ่มเติม