ระยะหลังๆ ดูเหมือนว่าไดรเวอร์ M4 จะมาแรงแซงโค้งไดรเวอร์ M3 จากค่ายเดียวกัน

      ซึ่งเหตุผลเข้าใจไม่ยาก เพราะไดรเวอร์ M4 ราคาถูกกว่า โปรระดับโลกก็ใช้ลงทำการแข่งขันและคว้าแชมป์ได้ซะด้วย และที่สำคัญที่สุด M4 ทั้งตีง่าย และได้ระยะเฉลี่ยไกลแบบชัดเจน

     เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ไดรเวอร์ M3 จะคู่ควรกับนักกอล์ฟกลุ่มไหน?

     คำตอบของเรื่องนี้ง่ายมาก หากท่านยังนิยมชมชอบไดรเวอร์ที่ให้ฟิลลิ่งที่แน่น มีพลัง ชอบวิถีลูกพุ่งๆ ทะลุทะลวง ยังไงก็แล้วแต่ M3 ยังเป็นคำตอบที่ใช่มากกว่า M4 ครับ

      ข้อดีของไดรเวอร์ M3 ที่มีราคาสูงกว่า เนื่องจากมีเทคโนโลยี Y-Track รางสไลด์สำหรับปรับจุดศูนย์ถ่วง เป็นตัวช่วยปรับแต่งลักษณะไดรเวอร์ให้ทำงานได้หลากหลายมิติมากขึ้น ช่วยรีดให้วิถีลูกพุ่งต่ำในสถานการณ์ที่ต้องออกรอบลมแรงๆ โดยการปรับก้อนน้ำหนักมาด้านหน้าให้หมด และปรับ Loft Sleeve เปลี่ยนองศาให้ต่ำที่สุด เพื่อทีออฟสู้กับสภาพสนามที่ลมแรง หรือปรับจุดศูนย์ถ่วงดันหลังให้หมด ปรับ Loft Sleeve เพิ่มองศาสูงที่สุด เพื่อปรับลักษณะไดรเวอร์ให้ตีง่ายที่สุด และให้วิถีลูกสูงที่สุด เพื่อทำระยะแครี่ไกล ในสนามที่พื้นนุ่ม สปินต่ำแค่ไหนก็ลูกตกแล้วก็ไม่ค่อยจะวิ่งมากนัก  นอกจากนั้นแล้ว การปรับก้อนน้ำหนักเลื่อนไปมา ตำแหน่งที่อยู่ระหว่างกลางๆ ก็ยังช่วยให้นักกอล์ฟสามารถปรับแต่งจุดศูนย์ถ่วงให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อหาจุดศูนย์ถ่วงที่เราตีแล้วชอบฟิลมากที่สุด วิถีลูกเป็นไปตามจินตนาการที่เราต้องการ รวมถึงการที่สามารถเปลี่ยนก้อนน้ำหนักให้แตกต่างออกไป เพื่อสร้างบาล้านซ์หรือ Swing Weight ของไดรเวอร์ให้เป็นไปตามที่เราต้องการได้ครับ

     ฉะนั้นนักกอล์ฟท่านใด ที่มีสไตล์การใช้ไดรเวอร์ที่มีการปรับแต่งไดรเวอร์อยู่เป็นประจำ มีการเปลี่ยนก้าน ลองก้านใหม่อยู่เสมอๆ นักกอล์ฟที่ชอบฟิลในการตีที่หนักแน่น วิถีลูกพุ่งต่ำ ทรงพลัง ยังไงก็มีความเหมาะสมกับ M3 มากกว่า M4 ครับ

     เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีคำถามจากท่านนักกอล์ฟท่านหนึ่งที่ชอบและกำลังตัดสินใจซื้อ  M3 แต่เห็นข้อมูลการตีของดัสติน จอห์นสันที่ตี M4 หนึ่งออนในหลุมพาร์ 4 เมื่อต้นปี นักกอล์ฟท่านนี้ลังเลว่า M3 จะตีระยะสู้ M4 ไม่ได้ โดยท่านได้ถามมาว่า ถ้าปรับจูนตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงจนเข้าที่แล้ว M3 กับ M4 น่าจะทำระยะได้พอๆ กันหรือไม่

     คำตอบในความเห็นของผมคือ ใช่ครับ ระยะคงไม่หนีกัน เหตุผลเพราะทั้ง M3 และ M4 มี 2 เทคโนโลยีหลักที่เหมือนกันคือ HAMMERHEAD SLOT และ Twist Face ที่ช่วยทำให้ตีไกลและตีง่าย ชดเชยความผิดพลาดดี

     โดยเทคโนโลยี HAMMERHEAD SLOT ใน M3 และ M4 จะทำออกมาได้ดีกว่า M1 กับ M2 2 เรื่องหลักๆ คือ

     หนึ่ง การที่ M3 ตัดสินใจย้านรางสไลด์ไปอยู่ด้านหลัง ไม่เกี่ยวข้องกับร่อง Speed Pocket ช่วยทำให้ Speed Pocket ใหม่ ในชื่อ HAMMERHEAD SLOT  สามารถทำงานได้เต็มที่มากขึ้น เพราะว่าในตัว M1 นั้น รางสไลด์กับ Speed Pocket ถูกใช้ร่วมกัน ทำให้เมื่อปรับแต่งก้อนน้ำหนักไว้ตรงกลางรางหน้า จะทำให้ก้อนน้ำหนักไปกีดขวางกลางรางเอาไว้ ทำให้ Speed Pocket ถูกคั่นเอาไว้ด้วยก้อนน้ำหนัก แต่สำหรับ M3 นั้น ร่อง HAMMERHEAD SLOT สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

     สอง การออกแบบโครงสร้างและความแข็งแรงรูปแบบใหม่ของร่อง HAMMERHEAD SLOT ช่วยทำให้ความเร็วลูกกอล์ฟตอนพุ่งออกจากหน้าไดรเวอร์มีค่าเฉลี่ยที่ดีขึ้น ช่วยทำให้ระยะเฉลี่ยในการตีไดรเวอร์ในช็อตที่โดนเต็ม หรือโดนไม่เต็ม ก็ยังได้ระยะทางที่ไกลอยู่

    เทคโนโลยี Twist Face เป็นเทคโนโลยีช่วยเซฟตี้ช็อตที่นักกอล์ฟตีพลาดไป ไม่ให้ลูกกอล์ฟหลุดออกนอกแฟร์เวย์ หรือถ้าหลุดก็อาจน้อยลง โดย Twist Face จะช่วยชดเชยวิถีลูกให้หลุดซ้ายน้อยลง เมื่อตีพลาดไปทางปลายไม้ด้านบน และช่วยชดเชยวิถีลูกให้หลุดขวาน้อยลง เมื่อตีพลาดไปทางคอไม้ด้านล่าง

    อย่างที่กล่าวไว้ 2 เทคโนโลยีหลัก HAMMERHEAD SLOT และ Twist Face เป็นคีย์หลักที่ทำให้ไดรเวอร์ M3 และ M4 ตีง่าย ไกล และชดเชยความผิดพลาดดี

    ส่วนใครน่าจะเหมาะที่จะใช้ M3 มากกว่านั้น ในความเห็นของผม คือ กลุ่มนักกอล์ฟที่นิยมชมชอบการตกแต่งไดรเวอร์เป็นประจำ M3 จะมีเทคโนโลยี Y-Track เป็นตัวช่วยปรับแต่งวิถีลูกให้ละเอียดมากขึ้น ตั้งแต่การปรับแต่งวิถีลูกไปตามลักษณะการสวิงที่อาจเปลี่ยนแปลงไปแต่ละวัน ปรับแต่งวิถีลูกชดเชยคาแรคเตอร์ก้านต่างรุ่นต่างแบรนด์ที่แตกต่างกันไป และสำคัญที่สุด ฟิลลิ่งที่แน่น วิถีลูกทรงพลัง ใครมาทางนี้ ยังไงก็ต้องจัด M3 ครับผม

เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

Chalermwong B.Kajorn

20/2/2018

https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/

แอดไลน์เพิ่มเพื่อน เพื่อเข้ามาสอบถามเรื่องอุปกรณ์กอล์ฟได้ที่ 

Official Line : @golferonline

หรือกดลิ้งค์

https://line.me/R/ti/p/%40golferonline

Tags : Driver Woods หัวไม้ ไดรเวอร์ ไดร์เวอร์ ไดรฟเวอร์