ในบรรดาเหล็กรุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Titleist ทั้ง 5 โมเดล ที่โปรในพีจีเอทัวร์เลือกใช้เป็นเหล็กข้างกาย รุ่น AP2 เป็นรุ่นที่โปรในทัวร์ใช้มากที่สุด ร่วมกับเหล็กเบลดคลาสสิกอย่าง 718 MB โดยมีสัดส่วนการใช้งานถึง 36%  

     น่าทึ่งนะครับที่เหล็กโมเดลนี้มีโปรในทัวร์ให้ความไว้วางใจมากพอๆ กับเหล็กใบเบลด

     ด้วยความพิถีพิถันในการสร้างเหล็กรุ่น AP2 ตั้งแต่โมเดลแรกเริ่มวางตลาดเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว ทีมผู้ออกแบบได้วางกรอบในการออกแบบเหล็กรุ่นนี้ให้เป็นเหล็กทางเลือกสำหรับนักกอล์ฟฝีมือดี ที่มองหาเหล็กใบบาง ที่ตีง่าย โดยการออกแบบมีการขยายมิติของใบขึ้นมาเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในลิมิต ไม่ใหญ่เกินไปจนโปรในทัวร์รับไม่ได้ แต่การที่มีกรอบการออกแบบไม่ให้เหล็กไซร์ใหญ่เกินไปก็ไม่ใช่ง่าย ๆ หากใช้วิธีการออกแบบปกติ ดังนั้นตั้งแต่ในโมเดลแรกๆ ของ AP2 ได้นำเทคโนโลยีทังสเทนถ่วงเข้าไปด้านในของใบเหล็ก เพื่อให้สามารถลดไซร์ใบเหล็กได้ โดยที่ยังมีการชดเชยความผิดพลาดที่สูงอยู่

     ทังสเทนถูกวางในตำแหน่งด้านล่างและค่อนไปทางด้านหลังของใบ เพื่อเพิ่ม M.O.I. และทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ทำให้เหล็กโมเดล AP2 ตีง่ายขึ้นชัดเจนมากตั้งแต่รุ่นนี้วางตลาดครั้งแรก

  เหล็ก AP2 ได้รับการพัฒนาปรับปรุงคุณสมบัติเรื่อยมา จนโปรระดับโลกเริ่มเปลี่ยนจากเหล็กใบบางอย่างเหล็กใบเบลดมาเป็น AP2 ซึ่งสามารถให้คุณสมบัติทดแทนเหล็กใบเบลดได้ โดยที่ตีง่ายกว่าใบเบลดมาก เช่น การออกแบบให้ใบบาง มีความเฉียบคมในการตี การเล่นลูกตกแต่งช็อตก็ยังสามารถทำได้ดี ไม่แพ้เหล็กใบเบลดคลาสสิก

    718 AP2 รุ่นใหม่ล่าสุด ยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมของรูปลักษณ์ใบเหล็กที่โปรในทัวร์ชื่นชอบ และยังออกแบบไม่ได้เน้นให้เหล็กตีได้ระยะไกลขึ้น จนสร้างปัญหาให้โปรสับสนระยะเหล็ก ซึ่งเรื่องนี้เป็นกุญแจที่สำคัญที่สุดที่ทำให้โปรในทัวร์ตีเหล็กเข้าหากรีนได้อย่างเฉียบคม

     อย่างไรก็ตาม AP2 มีการพัฒนาครั้งใหญ่ในเรื่องประสิทธิภาพให้ดีมากขึ้น โดยที่ยังคงรักษารูปลักษณ์ที่ลงตัวไว้ได้ โดยปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่วัสดุที่นำมาทำหน้าเหล็ก ใช้ SUP10 Japanese Spring Steel ในส่วนของเหล็ก 7 จนถึงเหล็กยาว ช่วยทำให้ AP2 ยุคใหม่ ทำระยะเฉลี่ยเมื่อตีไม่เข้ากลางหน้าไม้ดีขึ้น  โปรในทัวร์อธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า AP2 เป็นเหล็กที่ออกแบบเรื่องการชดเชยไว้อย่างดี เมื่อเกิดความผิดพลาดในการตี แทนที่ระยะจะเสียหายมาก แต่ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบที่ดี ช่วยทำให้เมื่อพลาดไปแล้ว ระยะไม่หายไปมาก จึงเป็นที่มาของคำว่า ระยะเฉลี่ยเมื่อตีพลาดกลางหน้าไม้ดีขึ้นมาก นอกจากนั้นแล้ว  รุ่นใหม่ยังใช้ทังสเทนมาถ่วงเพื่อกระจายน้ำหนักเฉลี่ยหนักถึง  57.4 กรัม ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงของใบเหล็กอยู่ต่ำและลึกไปทางด้านหลัง ช่วยเพิ่มค่า M.O.I. ของใบเหล็กให้สูงขึ้น

         การออกแบบองศาหน้าเหล็ก ก็เป็นอีกเรื่องที่แสดงถึงความตั้งใจสร้างใบเหล็กรุ่นนี้ให้โปรในทัวร์ใช้อย่างแท้จริง โดยเหล็ก 3-5 องศาหน้าเหล็กเท่ากับรุ่น 718 MB เลย และตั้งแต่เหล็ก 6 จนถึง PW ก็มีองศาสตรองขึ้นแค่เพียง 1 องศาเท่านั้น

     จากคุณสมบัติทั้งหมดของเหล็กรุ่นนี้ จะเห็นได้ชัดว่า เหล็กรุ่นนี้มีความตั้งใจที่จะออกแบบสเปคในส่วนต่างๆ มาเพื่อให้นักกอล์ฟฝีมือดีใช้อย่างแท้จริง ใครก็ตามที่เป็นนักกอล์ฟมือดี โปรในทัวร์ หรือมือใหม่ มือกลางที่กำลังหาเหล็กเผื่อฝีมือดีในอนาคต ตัวนี้เลยครับ นุ่ม แน่น จริงๆ ถ้าได้ลองตีแล้วจะติดใจเลยครับ โดยเฉพาะผู้เขียนที่ลองแล้วติดใจมาก จนต้องใส่เหล็กสั้น 718 AP2 ติดไว้ใน Combo Set

 เหล็กที่วางตลาด: 3-P, 48º

•      สำหรับราคาขายก้านเหล็ก True Temper AMT Tour White : ราคาตั้ง 7,600 บาทต่อชิ้น และคาดว่าจะขายที่ราคา 6,080 บาท ต่อชิ้น ราคา MAP แบบชุด 7 ชิ้น (4-P) 42,560 บาท | ราคาตั้ง 7,600 บาทต่อชิ้น

เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

Chalermwong B.Kajorn

ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.

ติดตามข้อมูล ความรู้ต่างๆ จากเราได้ที่

https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/

https://www.facebook.com/cing8333

https://line.me/R/ti/p/%40golferonline

หรือค้นหาเพื่อนใน line โดยคีย์คำว่า @golferonline

หรือสนในสั่งซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ที่
https://line.me/R/ti/p/%40qcgolf

หรือโทร 091-991-9592

12 / 10 / 2017

  Tags : Titleist Iron Irons  

สอบถามเพิ่มเติม