การ Chip หรือ Pitch ลูกให้มีการ Spin เมื่อตกบนกรีนเป็น Shot ที่นักกอล์ฟส่วนใหญ่มีความต้องการสูงในการที่จะเล่นเป็น

     ด้วยเหตุนี้นักกอล์ฟหลายท่านจึงใช้เวลาไม่น้อยในการแสวงหาและทดลองวิธีการต่าง ๆ ในการที่จะตีลูกให้หยุดบนกรีน ซึ่งการทดลองเหล่านี้อาจนําไปสู่การปรับเปลี่ยนกระบวนท่าและการเคลื่อนไหวของตัวและไม้กอล์ฟที่สลับซับซ้อนมากเกินจนนักกอล์ฟไม่สามารถทําได้ตลอดทุกครั้ง

     วิธีการที่จะตีลูกใกล้ขอบกรีนให้หยุด Check เมื่อลูกตกกระทบพื้นกรีนนั้นจริงแล้วทําได้โดยไม่ยากจนเกินไป เพียงแต่ต้องมีความเข้าใจในหลักการที่ก่อให้ลูกเกิดการ Spin และมีใจกล้าพอที่จะตีตามเช่นนั้น

ปัจจัยที่ทําให้ลูกกอล์ฟเกิดการ Spin มีอะไรบ้าง

1. ลูกกอล์ฟต้องเป็นสิ่งแรกที่หน้าเหล็กกระทบในช่วง Impact 

2. ลูกกอล์ฟต้องกระทบหน้าเหล็กตรง Groove (ร่องบน

หน้าเหล็ก) ที่เส้นที่ 3 หรือ เส้นที่ 4 นับจากด้านล่างของ

หน้าเหล็ก

3.  มีสวิงที่กระชับสั้นลงแต่ยังต้องมีความเร็วในช่วงตีผ่าน

ลูกกอล์ฟ

     สามปัจจัยนี้ต้องเกิดขึ้นเมื่อตีลูกระยะสั้นขึ้นกรีนหากหวังให้ลูกกอล์ฟหยุดเมื่อกระทบพื้นกรีนเพราะลูกกอล์ฟจะเกิด Backspin ได้ก็ต่อเมื่อลูกนั้นถูกหน้าเหล็กกดทับลงไปที่พื้นและถูกบังคับให้หมุนย้อนกลับขึ้นใบหน้าเหล็กไป ด้วยเหตุนี้หัวเหล็กยิ่งมีความเร็วในการตีผ่านลูกเท่าไหร่จึงสร้าง Spin ในการหมุนของลูกได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น การตีกระทบพื้นก่อนโดนลูกกอล์ฟในช่วง Impact จะทําให้มีหญ้าติดขั้นระหว่างลูกกอล์ฟกับหน้าเหล็กมากเกินไป ร่องบนหน้าเหล็กนั้นไม่สามารถกัดลงไปที่ผิวลูกกอล์ฟให้เกิดการ Backspin อีกทางหนึ่ง หากพยายามตีไม่ให้เกิดลอย Divot  ก็อาจทําให้ตีลงไปที่พื้นไม่เพียงพอ ส่งผลให้ส่วนล่างของใบเหล็กเป็นตัวกระทบลูกซึ่งจะทําให้ลูกลอยไปในลักษณะที่ต่ําด้วย Spin ที่น้อยนิดหรือถึงกับไม่มีเลย ดังนั้นการนําไม้ให้กระทบผ่านลูกในลักษณะที่ถูกต้องจึงสําคัญยิ่งนักในการตีลูกให้มีการ Spin 

     การสร้างความรู้สึกในการ Chip หรือ Pitch ลูกโดยมีครบปัจจัยทั้งสามนั้นทําได้ด้วยการใช้แบบฝึกต่อไปนี้

     นํา Tee สั้นปักลงให้มิดพื้น วางลูกกอล์ฟบน Tee โดยส่วนล่างของลูกกอล์ฟต้องติดแนบกับพื้นดิน เข้าจรดลูกในท่า Chip หรือ Pitch ตามปกติและสวิงผ่านลูกโดยพยายามให้ส่วนล่างของใบเหล็ก (Bounce) ฟาด “ตุ้บ” ลงไปสู่ Tee ที่ปักอยู่ใต้ลูกกอล์ฟ  

     หากสวิงไม้ได้ถูกต้องครบปัจจัยทั้งสามนั้นจะปรากฎลอย Divot ที่บางในฝั่งซ้ายของ Tee โดยที่ Tee นั้นยังต้องคงอยู่ในสภาพเดิมที่ได้ปักไว้ตั้งแต่แรก

     หาก Tee มีการเคลื่อน (ถึงแม้จะนิดเดียว) แสดงว่าหัวเหล็กนั้นมีการกระทบสัมผัสพื้นก่อนลูกกอล์ฟ  อีกนัยหนึ่งการลงมาโดยไม่มีลอย Divot ก็หมายถึงการตีกดลงมาไม่เพียงพอ ลูกกอล์ฟกระทบหน้าไม้ในบริเวณต่ำกว่าร่องที่ 3 หรือ 4 และจะไม่มีทางเกิด Spin ได้

     เมื่อซ้อมด้วยแบบฝึกนี้จนจับความรู้สึกของการสวิงผ่านลูกที่ถูกต้องได้แล้ว ก็ลองนํา Technique การตีลูก “หยุด” นี้ไปใช้เมื่อออกรอบ คุณจะพบว่าลูกกอล์ฟมีการหยุดใกล้หลุมในระยะที่ Putt ลงได้มากขึ้นพร้อมกับผลพลอยได้ในการ “หยุด” การเกินของ Score ตามมาด้วย

โปรอาย นรีนุช มีโพธิ์สม 

Key : Short Game  ชิพ พิทช์ ลูกสั้น