TP5 ลูกกอล์ฟรุ่นนี้ตีข้ามลมได้
เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
11 Jun 2017
- Shares:
TaylorMade
TP5
"ลูกกอล์ฟรุ่นนี้ตีข้ามลมได้"
ประโยคนี้เป็นประโยคเด็ดที่โปรมะพร้าว ให้คำนิยามไว้กับลูกกอล์ฟรุ่นนี้ ของ TaylorMade ทำให้เห็นภาพว่า ลูกกอล์ฟรุ่นนี้มีทีเด็ดอะไร
คำว่า ตีข้ามลมได้ ในความหมายของโปรมะพร้าว คือ ลูกกอล์ฟรุ่นนี้ สู้ลมดี ลมทำอะไรลูกกอล์ฟรุ่นนี้ได้ไม่มาก เมื่อเทียบกับลูกกอล์ฟรุ่นอื่นๆ คำอธิบายตรงนี้ อาจจะคล้ายๆ กับ เวลาที่เรานั่งเครื่องบินลำใหญ่ กับ เครื่องบินลำเล็ก เครื่องบินใบพัด แล้วเจอพายุ สภาพอากาศแปรปรวน เครื่องบินลำใหญ่ จะนิ่งกว่า ไม่ค่อยรู้สึกสั่นสะเทือนมากนัก แตกต่างจากเครื่องบินเล็ก หรือ เครื่องบินใบพัด ลูกกอล์ฟก็เช่นกัน TP5 ของ TaylorMade คงจะเคลื่อนที่ผ่านลมได้นิ่งกว่า รุ่นอื่นๆ
ในการออกแบบลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบัน การพัฒนาลูกกอล์ฟไม่เพียงออกแบบให้ตีไกล สปินจัดเท่านั้น แต่ยังออกแบบให้สู้ลมดี ลมไม่สามารถทำให้ลูกกอล์ฟเสียระยะ หรือ เปลี่ยนทิศทางมากนัก ซึ่งจะทำให้โปรที่ซ้อมถึง สามารถตีเข้าเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ในสภาพลมไม่แรง ได้ประโยชน์จากการใช้ลูกกอล์ฟรุ่นนี้
แบรนด์ TaylorMade ใช้เวลากว่า 7 ปี ในการพัฒนาลูกกอล์ฟโครงสร้าง 5 ชั้น ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เคยสร้างมา ด้วยการปิดช่องโหว่ต่างๆ ให้หมดสิ้น เพื่อสร้างลูกกอล์ฟให้มีคุณสมบัติครบเครื่องที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ในการออกแบบครั้งนี้ ทีมวิจัย TaylorMade พบว่า การใช้โครงสร้าง 5 ชั้น เป็นทางออกเดียวที่จะสร้างลูกกอล์ฟให้ครบเครื่อง ซึ่งแม้ว่าจะต้องแลกกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น แต่ TaylorMade ก็ตัดสินใจทำ เพื่อสร้างลูกกอล์ฟคุณภาพดีที่สุดในประวัติศาสตร์
ทีมวิจัยของ TaylorMade ซึ่งมองเห็นข้อเท็จจริงเรื่องที่ว่านี้ กล่าวคือ ไม่มีทางที่แกนกลางเพียงแกนเดียว จะสามารถรองรับความเร็วต่ำไปจนถึงสูงได้ วิศวกรจึงทำการซอยแกนกลางเป็น 3 ชั้น โดยกำหนดให้แต่ละชั้น มีค่าคอมเพรสชั่นที่แตกต่างกัน โดยชั้นในสุด คอมเพรสชั่นจะน้อยที่สุด และค่อยๆ เพิ่มขึ้นที่ชั้นถัดออกมาเรื่อยๆ
ข้อดีของแกนกลางหลายชั้น แตกต่างจากแกนกลางชั้นเดียวคือ การใช้โครงสร้างแกนกลางเพียงชั้นเดียว ค่าคอมเพรสชั่นจะมีค่าเดียว ถ้าความเร็วหัวไม้ไหนเหมาะกับค่าคอมเพรสชั่นแกนกลางนั้นๆ ความเร็วหัวไม้ที่สูงกว่า หรือต่ำกว่า มากๆ อาจจะไม่เหมาะกับคอมเพรสชั่นของแกนกลางค่านั้นๆ ทำให้การตีไม้บางเบอร์จะได้ประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม้บางเบอร์จะได้ประสิทธิภาพไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้ทีมวิจัยของ TaylorMade เล็งเห็นถึงช่องโหว่ตรงนี้ จึงพยายามสร้างลูกกอล์ฟเติมเต็มให้ตีด้วยไม้ทุกอันในถุงแล้ว ได้ประสิทธิภาพเต็มขีดความสามารถ การซอยคอมเพรสชั่นของแกนกลาง ออกเป็น 3 ระดับ เพื่อให้แต่ละชั้น ทำงานเต็มขีดจำกัดที่สุด ให้ครอบคลุมทุกๆ ย่านความเร็วหัวไม้ที่แตกต่างกันในถุง
แกนกลางชั้นในสุดมีค่าคอมเพรสชั่น 15 ชั้นที่ 2 คอมเพรสชั่น 30 และ ชั้นที่ 3 คอมเพรสชั่น 45 โดยการทำงานแต่ละชั้นจะเป็นดังนี้
ชั้นในสุดที่นุ่มสุด จะเริ่มยุบตัวได้ตั้งแต่ความเร็วหัวไม้ต่ำๆ ส่วนชั้นที่ 2 จะทำงานที่ความเร็วหัวไม้กลางๆ และชั้นที่ 3 จะเริ่มทำงานที่ย่านความเร็วหัวไม้สูงๆ
ลองจินตนาการการทำงานของแกนดูตามนี้ สมมุติว่า แกนกลางชั้นในสุดมีการยุบตัวในระดับหนึ่งแล้ว แกนกลางจะแน่นขึ้น จนยุบต่อไปไม่ได้ แกนกลางชั้นที่ 2 ก็จะเริ่มทำงานต่อ จวบจนกระทั่งแกนกลางชั้นที่ 2 ยุบจนถึงระดับหนึ่งแล้ว แกนกลางชั้นที่ 3 ก็จะทำงานต่อ ไล่เรียงความเร็วมาเป็นลำดับ
เรื่องนี้ลองนึกถึง เวลาที่เรากดพื้นรองเท้ากีฬานุ่มๆ ตอนที่เรากดด้วยแรงน้อยๆ พื้นรองเท้าจะยุบ บุ๋มตามรอยนิ้ว เมื่อเราค่อยๆ กดแรงขึ้นเรื่อยๆ มันจะไม่สามารถยุบต่อไปได้อีกแล้ว และมันจะรู้สึกแข็งขึ้น จนต้องออกแรงเพิ่มขึ้นอีกมากๆ มันถึงจะยุบได้อีก คำอธิบายตรงนี้ จะคล้ายๆ กับการทำงานของแกนกลางชั้นใน ที่จะยุบเมื่อความเร็วน้อยๆ พอยุบถึงระดับหนึ่งแล้ว มันจะยุบต่อไม่ได้ มันจะเริ่มยุบตัวเมื่อความเร็วไต่ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ซึ่งเมื่อถีงระดับนั้น แกนกลางชั้นถัดไปจะเริ่มยุบ และยุบไปพร้อมๆ กับแกนกลางชั้นในๆ ด้วย
ด้วยเทคนิคการซอยคอมเพรสชั่นแกนกลางไว้หลายๆ ชั้น จึงทำให้ลูกกอล์ฟของ TP5 สามารถรองรับความเร็วทุกๆ ย่านความเร็วในถุง ทำให้การตีไม้ทุกๆ อันในถุงได้ระยะทางไกล โดยเฉพาะช่วงเหล็กยาวจนถึงเหล็กกลาง จะเห็นความแตกต่างของระยะมากที่สุด เมื่อเทียบกับลูกกอล์ฟโครงสร้างที่ชั้นแกนกลางน้อยกว่านี้
ในลูกกอล์ฟที่ออกแบบให้ตีไดรเวอร์สปินต่ำ ตีเวดจ์สปินจัด ต้องมีโครงสร้าง 2 ชั้นนี้เป็นคีย์สำคัญ คือโครงสร้างเปลือก 2 ชั้น ชั้นนอกเรียกโครงสร้างนั้นว่า เปลือกนอก Cover ส่วนชั้นที่ 2 อาจเรียกว่า เปลือกด้านใน หรือ แหวนครอบโครงสร้างแกนกลาง สำหรับ TaylorMade จะเรียกว่า Dual-Spin Cover เป็นโครงสร้างเปลือกที่ต้องมาคู่กัน 2 ชั้น มาเพียงชั้นใดชั้นหนึ่งไม่ได้ ถ้ามาชั้นเดียว การออกแบบจะได้สปินแค่ทางใดทางหนี่งดีเท่านั้น เช่น ถ้าใช้วัสดุทำเปลือกแข็ง สปินทั้งไดรเวอร์และเหล็กจะต่ำ ตีไดรเวอร์ตกวิ่ง เวดจ์ก็ตกวิ่งกับเค้าด้วย แต่ถ้าใส่วัสดุทำเปลือกนุ่ม สปินทั้งไดรเวอร์และเวดจ์ก็จะสูงทั้งคู่ ตีเวดจ์ตกหยุด ไดรเวอร์ก็ตกหยุดด้วย
ดังนั้นการนำโครงสร้าง Dual-Spin Cover มาใส่ในลูกกอล์ฟ ก็เพื่อสร้างให้ลูกกอล์ฟตีไดรเวอร์สปินต่ำ ตีเวดจ์สปินจัด
หลักการออกแบบคือ การใช้วัสดุนุ่มในเปลือกชั้นนอก ซึ่ง TaylorMade ใช้วัสดุ Soft Cast Urethane ออกแบบให้บางเพียงพอที่ความเร็วหัวไม้ต่ำๆ จะกระทบให้เปลือกยุบ แล้วให้ร่องเหล็กกัดเข้าไปในเนื้อเพื่อสร้างอัตราสปินให้จัดจ้าน ส่วนเปลือกด้านใน จะใช้วัสดุที่แข็งขึ้น เฟิร์มขึ้น เพื่อให้เวลาที่ตีไดรเวอร์หรือหัวไม้ที่ความเร็วสูงๆ เปลือกจะไม่ยุบตัวจนย้วย จนไปสร้างสปินในการตีไดรเวอร์ คำอธิบายนี้จะคล้ายๆ เรื่องการกดพื้นรองเท้านุ่มๆ ครับ ที่กดลงไปถึงระดับหนึ่ง มันจะเริ่มแข็งขึ้น เมื่อความเร็วหัวไม้สูงๆ มันจะทำให้เปลือกนอกสุดยุบตัวจนเปลือกนอกที่นุ่มเฟิร์มขึ้น และเมื่อเจอเปลือกชั้นที่ 2 ที่เฟิร์มอยู่แล้ว มันจะทำให้เปลือกไม่ย้วยเกินไป เมื่อตีด้วยไดรเวอร์ ด้วยเหตุนี้เอง Dual-Spin Cover จึงสามารถสร้างให้ลูกกอล์ฟ TP5x และ TP5 สร้างอัตราสปินต่ำเมื่อตีไดรเวอร์ และ อัตราสปินสูงในการตีเหล็ก หรือ เวดจ์
ทั้งหมดนี้คือเหตุผลว่า ทำไมลูกกอล์ฟ TP5 ถึงต้องออกแบบโครงสร้างลูกกอล์ฟถึง 5 ชั้น
ลูกกอล์ฟรุ่นใหม่ล่าสุดของ TaylorMade TP5 เป็นลูกกอล์ฟที่ให้ความนุ่มนวลสูง ให้วิถีลูกธรรมชาติพุ่งต่ำ มีอัตราสปินในการตีเหล็กสูง
เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
Chalermwong B.Kajorn
ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.
ติดตามข้อมูล ความรู้ต่างๆ จากเราได้ที่
https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/
https://www.facebook.com/cing8333
https://line.me/R/ti/p/%40golferonline
หรือค้นหาเพื่อนใน line โดยคีย์คำว่า @golferonline
11 / 6 / 2017
Keys : ลูกกอล์ฟ Golf ball