ข้อเท็จจริงของเหล็กโกงองศา
เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
28 Jan 2017
- Shares:
ผมไม่แน่ใจว่าผมได้ยินคำว่า "เหล็กโกงองศาครั้งแรกตั้งแต่เมื่อไหร่" รู้แต่เพียงว่า เหล็กเบอร์เดียวกันที่มีองศาน้อยกว่า พรรคพวกเพื่อนฝูงผมจะเรียกมันว่า Strong Loft โดยเรามักดูที่องศาของ PW เป็นหลักในยุคนั้น ถ้า PW องศา 48 หรือมากกว่า ก็จะเป็นองศาปกติ หาก PW องศา 45 หรือน้อยกว่า ก็จะเป็นกลุ่มเหล็กที่เรียกว่า Strong Loft
มีอยู่ยุคหนึ่งที่ผมก็หลงเชื่อตามๆ กันมาว่า องศาของเหล็กเป็นสิ่งที่ทำให้เหล็กรุ่นนั้น รุ่นนี้ตีได้ระยะไกลขึ้น แต่เมื่อผมเข้ามาเริ่มค้นคว้าและเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องอุปกรณ์กอล์ฟเล่นแรกเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ผมกลับค้นพบว่ามันไม่ใช่ ยิ่งผมได้มีโอกาสนำเทคโนโลยีของ FlightScope มาวิเคราะห์การตีเหล็กของนักกอล์ฟแล้ว ยิ่งมั่นใจว่า สิ่งที่ผมเชื่อตามๆ กันมาในอดีตไม่ถูกต้องซะทีเดียว ไม่เป็นไร วันนี้เรามาทำความเข้าใจกันใหม่ร่วมกัน
ลองคิดตามกันดูไปตามลำดับนะครับ หากลองสังเกตสเปคของเหล็กรุ่นที่มีองศาปกติ เราจะพบว่าองศาปกติมักจะอยู่ในใบเหล็กแบบคลาสสิค จำพวกเหล็กใบบางทั้งหลาย เหล็กใบเบลดเป็นต้น ถ้าเกิดสมมุติว่าเหล็กใบเบลดที่เป็นเหล็กที่ถูกออกแบบให้สามารถสร้างวิถีลูกให้เหมาะสมดีอยู่แล้ว หากวันนึงวิศวกรต้องการเปลี่ยนคุณสมบัติเหล็กใบเบลดให้ตีง่ายขึ้น มี 2 สิ่งที่วิศกรที่ออกแบบใบเหล็กต้องทำเป็น 2 สิ่งแรกเสมอ คือ การออกแบบกระจายน้ำหนัก และการออกแบบจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง
เมื่อวิศวกรออกแบบจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลงแล้ว จากเดิมที่เหล็กใบเบลดให้วิถีลูกที่เหมาะสม พุ่งทะลุทะลวงดี เมื่อมีการออกแบบจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง วิถีลูกก็จะสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ จากเดิมที่เหล็กใบเบลดให้วิถีลูกที่เหมาะสมดีอยู่แล้ว วิถีลูกใหม่ก็จะลอยโด่งมากขึ้น ซึ่งจะทำให้นักกอล์ฟฝีมือดีมีปัญหาในการเล่นช็อตที่ต้องการควบคุมวิถีลูก และมีปัญหาวิถีลูกโด่งเกินไป ดังนั้นเมื่อการออกแบบจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง สร้างปัญหาให้วิถีลูกสูงเกินไป วิศวกรจึงจำเป็นต้องปรับแก้องศาของใบเหล็กให้ต่ำลง ชดเชยให้วิถีลูกกลับมาอยู่ในโซนปกติ ซึ่งจะทำให้เหล็กทิ่ออกแบบให้ตีง่าย ชดเชยความผิดพลาดดีจึงมักมีองศาของเหล็กต่ำกว่าองศาของเหล็กเบลด ยิ่งการออกแบบมีแนวโน้มว่าจะสร้างใบเหล็กให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลงเท่าไหร่ การออกแบบปรับแก้องศาก็จะมีความจำเป็นมากขึ้นเท่านั้น
การออกแบบองศาของใบเหล็กให้ต่ำลง ยังไปสอดคล้องกับปัญหาการตีของนักกอล์ฟสมัครเล่นที่มักมีอาการตีควัก หักข้อมือช่วงที่อิมแพค ซึ่งทำให้องศาของใบเหล็กหงายขึ้น
โดยข้อมูลการตีของนักกอล์ฟระดับโปร หรือนักกอล์ฟฝีมือดีพบว่า องศาของใบเหล็ก 7 ตอนเข้าอิมแพคจะอยู่ราวๆ 18-22 องศา ส่วนนักกอล์ฟสมัครเล่นที่ตีเหล็กไม่ได้ระยะ องศาของเหล็ก 7 ตอนเข้าอิมแพคจะอยู่ราวๆ 30 องศาขึ้นไป แตกต่างกันราว 8 องศาเป็นอย่างน้อย
ดังนั้นการที่เหล็กที่ถูกออกแบบให้นักกอล์ฟสมัครเล่นจะมีองศาน้อยกว่าเหล็กรุ่นที่ออกแบบให้นักกอล์ฟฝีมือดีใช้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ก็อย่างที่บอก เหล็กตีง่าย จุดศูนย์ถ่วงต่ำ วิถีลูกสูง การออกแบบองศาเหล็กน้อยลง ก็เพื่อชดเชยให้วิถีลูกพุ่งไม่สูงเกินไป และนักกอล์ฟสมัครเล่นมีปัญหาการตีงัด การลดองศาของเหล็กลง ก็เพื่อทำให้องศาของเหล็กไม่สูงจนเกินไปนั่นเอง
ทั้งหมดนี้เป็นคำตอบว่า ทำไมเหล็กที่ออบแบบให้ตีง่าย จึงมักทำองศาของใบเหล็กให้ต่ำลงครับ วิศวกรผู้ออกแบบใบเหล็กไม่ได้ตั้งใจที่จะโกงอะไรหรอกครับ ทั้งหมดนี้ก็เพียงแต่ออกแบบไปตามข้อมูลทางด้านวิศวกรรมครับ