TaylorMade M2
เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
09 Nov 2016
- Shares:
ไดรเวอร์ M2 ประกาศตัวเองไว้ชัดเจนว่า ตัวเองเป็นไดรเวอร์ลักษณะใด
" ข้าพเจ้าเป็นไดรเวอร์ตีไกลและชดเชยความผิดพลาดดี " ผมแปลเองเป็นไทย ภาษาอังกฤษเค้าเขียนไว้ว่า " I AM DISTANCE AND FORGIVENESS "
แล้ว M1 รุ่นพี่ของ M2 ละ แตกต่างกันอย่างไร? เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่ถูกถามบ่อยมากๆ
ข้าพเจ้าเป็นไดรเวอร์ที่อยากให้ตีไปทางไหน ก็ปรับฉันมาสิ อันนี้ไม่มีภาษาอังกฤษ ผมแต่งของผมเอง
ทั้งไดรเวอร์รุ่น M1 และ M2 จริงๆ สามารถปรับแต่งได้ทั้ง 2 รุ่นครับ โดยรุ่น M2 จะปรับแต่งกันเฉพาะเรื่องของ Loft , Face และ Lie Angle ส่วนไดรเวอร์ M1 ปรับแต่งได้ทั้ง Loft , Face & Lie Angle เหมือนกับ M2 แต่สามารถปรับจุดศูนย์ถ่วง ด้วยเทคโนโลยี T-Track System เพิ่มเข้ามาให้ อ่านเรื่องไดรเวอร์ M1 โดยละเอียดได้ที่ ไดรเวอร์ M1
ไดรเวอร์ M2 ถูกสร้างขึ้นมาด้วยโจทย์ที่ยากในการสร้างไดรเวอร์รุ่นหนึ่งให้มีคุณสมบัติหลักๆ ที่นักกอล์ฟต้องการ ไกลและง่าย (ชดเชยความผิดพลาดดี)
ไดรเวอร์ M2 จึงถูกสร้างขึ้นมาด้วยการใช้เทคโนโลยีหลักเดียวกับ M1 โดยการผสมผสานวัสดุหลายๆ ชนิดเข้ามาเพื่อสร้างไดรเวอร์รุ่นนี้
ultra-light
ultra-thin
high-strength Carbon Composite Crown
แค่เพียงการนำคาร์บอนไฟเบอร์มาเป็นส่วนประกอบเรื่องเดียว มีผลทำให้โจทย์ที่ยาก กลายเป็น โจทย์ที่ง่าย ด้วยการนำคาร์บอนไฟเบอร์ วัสดุพระเอกของไดรเวอร์รุ่นนี้ มาใช้เป็นส่วนประกอบ ทำให้วิศวกรสามารถประหยัดน้ำหนักวัสดุที่ใช้ในการทำหัวไม้ได้หลายกรัม ทำให้ผู้ออกแบบสามารถเลือกออกแบบความหนา บาง ของทั่วทั้งหัวไม้ได้อย่างมีอิสระ ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมากในการออกแบบทางวิศวกรรม
การปรับแต่งความหนาของผนังหัวไม้ได้อย่างอิสระ รวมถึงการเลือกถ่วงน้ำหนักภายในหัวไม้ได้หลากหลายตำแหน่ง ทำให้การเปลี่ยนตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงไปเรื่อยๆ วิศวกรที่ทำงานวิจัยนี้ จะหาตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงที่ลงตัวมากที่สุด ตำแหน่งดีที่สุด มาสร้างไดรเวอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติตรงตามโจทย์ที่ต้องการ นั่นคือ
ตีไกลและง่าย
เทคโนโลยีหัวใจหลักของ M2
MULTI-MATERIAL CONSTRUCTION
M เป็นชื่อย่อมาจาก Multi-Material เป็นหัวใจหลักในการปลดล็อคการออกแบบไดรเวอร์ทั้งรุ่น M2 และ M1 โดยโครงสร้างส่วนของคาร์บอนไฟเบอร์นี้ประกอบด้วยแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูง 7 ชั้น ซึ่งมีน้ำหนักเบาและแข็งแรง จัดวางไว้ตรงตำแหน่งกระดองของไดรเวอร์ ช่วยประหยัดน้ำหนักของหัวไม้โดยรวมอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ทำให้วิศวกรสามารถกำหนดจุดศูนย์ถ่วงที่ดีที่สุดในการสร้างไดรเวอร์รุ่นนี้
MASSIVE SWEET SPOT
ในการสร้างไดรเวอร์ให้ตีไกล และชดเชยความผิดพลาดดี สิ่งหนึ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป คือการพยายามป้องกันช็อตที่ฮิตไม่เข้ากลางหน้าไม้ โดยป้องการไม่ให้ความเร็วลูกกอล์ฟตกลง หรือถ้าจะตกลงไป ก็ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่ง TaylorMade ใช้วิธีการป้องกัน 3 ชั้น คือ
หนึ่งการออกแบบให้ไดรเวอร์มีค่า M.O.I สูงๆ
สอง การใช้เทคโนโลยี Inverted Cone ช่วยกระจายจุดเด้ง จุดยืดหยุ่นออกไปรอบๆ กรวยหรือโคน ของหน้าไม้ ทำให้การตีพลาดกลางหน้าไม้ หน้าไม้ก็ยังคงความเด้งบริเวณขอบๆ ของโคนหรือกรวยอยู่
สามการออกแบบ Speed Pocket แบบปรับดีไซน์ใหม่ ช่วยทำให้หน้าไม้ขยับตัวบริเวณ Speed Pocket ทำให้ไม่ว่าจะตีพลาดอย่างไร หน้าไม้ก็มีการให้ตัว หรือ ยืดหยุ่นแน่ๆ
ทั้ง 3 เทคโนโลยีนี้ ช่วยเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟให้สูงขึ้น เมื่อตีเข้ากลางหน้าไม้ และคงความเร็วลูกกอล์ฟไม่ให้ตกลง เมื่อตีพลาดกลางหน้าไม้
HOT TRAJECTORY
วิถีลูกที่ของไดรเวอร์รุ่นนี้ พุ่งสูง และให้อัตราสปินต่ำ ซึ่งเป็นวิถีลูกในอุดมคติ ทำให้การตีไดรเวอร์แครี่ย์ไกล และตกวิ่งเยอะ
เทคโนโลยีอื่นๆ
Best In Class Sound
การออกแบบผนังด้านในไดรเวอร์ Internal acoustic engineering เพื่อสร้างคุณภาพเสียงให้แน่น ไพเราะ และเร้าใจ
Adjustable Loft Sleeve
สามารถปรับเปลี่ยนลักษณะหัวไม้ได้ 12 ตำแหน่ง ปรับให้องศาแตกต่างกันได้ถึง 4 องศา (+/- 2° degrees of loft) รวมถึงปรับเปลี่ยนหน้าไม้และ Lie Angle ได้ทุกๆ ตำแหน่งที่ปรับเปลี่ยนไป ดูในคู่มือประกอบ
Multiple Shaft Options
มีก้านให้เลือกหลากหลาย ทั้งก้านสำหรับนักกอล์ฟแข็งแรง U.S Spec ก้าน Fujikura หรือ นักกอล์ฟทั่วๆ ไป Asian Spec ก้าน Misubishi และยังสามารถเลือกก้านโมยอดนิยมที่เป็นก้านที่มีวางจำหน่ายในตลาดได้อีกด้วย
เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
Chalermwong B.Kajorn
ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.
8 / 11 /2559
https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/
Official Line : @golferonline