TaylorMade M1 Driver

     ครั้งแรกที่ผมเห็นเทคโนโลยีไดรเวอร์ M1 ของ TaylorMade วางตลาด ผมพิจารณาเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใส่มาในไดรเวอร์นี้อย่างละเอียด พบว่าไดรเวอร์นี้น่าจะได้รับการยอมรับจากโปรในทัวร์ที่แบรนด์ TaylorMade ไม่ได้เซ็นต์สัญญาให้เป็นโปรในสังกัด ซึ่งหลังจากผ่านช่วงเปิดฤดูกาลของแต่ละทัวร์ใหญ่ ตั้งแต่พีจีเอทัวร์ แอลพีจีเอทัวร์ ก็จะเห็นภาพข่าว โปรในทัวร์หลายๆ คนที่ไม่ได้ใส่หมวก TaylorMade หรือ เสื้อของอาดิดาส ใช้ไดรเวอร์รุ่นนี้ลงแข่งขันกันหลายคน และแน่นอนว่า โปรทัวร์ที่อยู่ในค่าย TaylorMade ใช้ลงแข่งขันเป็นอาวุธคู่ใจตีไกล จนขึ้นเป็นมือ 1 และ มือ 2 ของโลกในปัจจุบัน

 เจสัน เดย์ มือ 1 โลก ปัจจุบัน

ดัสติน จอห์นสัน มือ 2 โลก ปัจจุบัน

     สิ่งที่ทำให้ไดรเวอร์รุ่น M1 ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในทัวร์ เนื่องมาจากประวัติของไดรเวอร์แบรนด์ TaylorMade ในอดีต หลายต่อหลายรุ่นมีประสิทธิภาพสูง ใช้งานดี ตีไกลแน่ๆ แต่เหนือกว่านั้นคือ ควบคุมลูกให้อยู่ในแฟร์เวย์ในเปอร์เซ็นต์ที่สูง สิ่งนี้เป็นผลพวงมาจากการสร้างเทคโนโลยีปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง เพื่อปรับวิถีลูกชดเชยสวิงที่ผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ของโปรในทัวร์ จากที่สวิงตีเฟด ติดดรอว์ มากเกินไปในบางวัน สามารถปรับให้กลับมาตีตรงขึ้น ซึ่งผลลัพธ์คือการตีเข้าสู่เป้าหมายได้แม่นยำขึ้น เมื่อรวม 2 สิ่งนี้ไว้ด้วยกัน ตีไกล และตีเข้าเป้าได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้โปรในทัวร์หลายคน ไว้วางใจเลือกไดรเวอร์ M1 เป็นไดรเวอร์คู่ใจใช้เสริฟในช็อตทีออฟ

     เทคโนโลยีการปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง Moveable Weight Technology (MWT) ถูกแนะนำให้โลกรู้จักครั้งแรกในไดรเวอร์รุ่น r7 ซึ่งใช้หมุดน้ำหนัก 4 ตัว ในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง  หลังจากนั้น TaylorMade ก็พัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีในไดรเวอร์รุ่นท๊อปของ TaylorMade ทุกรุ่นเรื่อยมา และในที่สุดก็มาลงตัวที่ไดรเวอร์รุ่นปัจจุบันของ TaylorMade รุ่น M1

M1 ช่วยให้โปรในทัวร์ตีไกล และแม่นแฟร์เวย์

     ในรุ่น M1 ใช้เทคโนโลยีการปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงที่มีชื่อว่า T-Track System ซึ่งวางก้อนน้ำหนัก 15 กรัมไว้ที่รางด้านหน้า Front Track สามารถเลื่อนก้อนน้ำหนักไปยังตำแหน่งต่างๆ ได้ 16 ตำแหน่ง และในส่วนรางหลัง Back Track ใส่น้ำหนัก 10 กรัม สามารถเลื่อนก้อนน้ำหนักไปยังตำแหน่งต่างๆ ได้ 13 ตำแหน่ง ซึ่งเทคโนโลยี T-Track System ช่วยทำให้การปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง ปรับได้มากที่สุด และส่งผลกับวิถีลูกมากที่สุดประวัติศาสตร์ ปรับให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา พุ่งสูง พุ่งต่ำ และยังสามารถปรับให้ไดรเวอร์ตีง่ายขึ้น ชดเชยความผิดพลาดให้สูงขึ้นได้ด้วย

M1 ช่วยให้ผู้ปกครองประหยัดเงินค่าไดรเวอร์

     นอกจากไดรเวอร์รุ่นนี้จะได้รับความนิยมสูงสุดในระดับการแข่งขันอาชีพแล้ว ในความเห็นผมไดรเวอร์รุ่นนี้น่าจะเหมาะกับนักกอล์ฟสมัครเล่น ทุกกลุ่ม ทุกความแข็งแรงด้วยครับ เหตุผลคือ ก้อนน้ำหนัก 2 ก้อนที่ใส่ในรางสไลด์ เราสามารถประยุกต์ไปใช้ทำอย่างอื่น นอกเหนือจากการปรับจุดศูนย์ถ่วงครับ เราสามารถถอดก้อนน้ำหนักก้อนใดก้อนหนึ่ง หรือทั้ง 2 ก้อน ออกจากรางสไลด์ เพื่อทำให้ Swing Weight ลดลง ซึ่งประโยชน์ของไดรเวอร์รุ่นนี้ จะทำให้ผู้ปกครองที่มีลูกเล่นกอล์ฟ ประหยัดเงินซื้อไดรเวอร์ได้หลายปี เพราะหากถอดก้อนน้ำหนักออกทั้งหมด ไดรเวอร์ M1 จะมีน้ำหนักหัวเพียง 175.7 กรัม เท่านั้น สามารถนำไปใส่ก้านไดรเวอร์เบา แล้วค่า Swing Weight อยู่ในระดับโซน C ต้นๆ เท่านั้น  เมื่อลูกของท่านสูงขึ้น โตขึ้น แข็งแรงขึ้น ก็สามารถเติมก้อนน้ำหนักเข้าไปทีละก้อน เพื่อปรับ Swing Weight ของไดรเวอร์ให้สอดคล้องไปกับความแข็งแรงของลูกท่านที่แข็งแรงขึ้นครับ

     โดยเทคนิคการนำไดรเวอร์ M1 ไปให้ลูกของท่านใช้ ผมแนะนำให้ซื้อแบบองศาสูงไว้ก่อน เพราะธรรมชาติของนักกอล์ฟเด็ก ต้องการตีให้วิถีลูกพุ่งสูง ท่านอาจซื้อองศา 10.5 ก่อนครับ

     หลังจากที่ลูกของท่านเติบโตขึ้น ความเร็วหัวไม้สูงขึ้น อาจไม่จำเป็นต้องตีให้วิถีลูกสูงเท่าตอนที่ยังเป็นเด็ก ก็ให้ท่านปรับตัว Loft Sleeve ให้องศาต่ำลงเป็น 9.5 หรือต่ำสุดได้ถึง 8.5 ครับ

     แล้วก็เติมก้อนน้ำหนักจาก Back Track ที่เคยถอดออกไปไว้ที่รางหลัง เติมเข้าไปน้ำหนักหัวไดรเวอร์จะอยู่ที่ 184.8 กรัม  เพื่อเพิ่มการชดเชยความผิดพลาด และช่วยให้การปรับองศาต่ำลง วิถีลูกยังสูง และตีลอยได้แบบง่ายๆ อยู่

     เมื่อลูกท่านแข็งแรงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ก็ให้เอาก้อน Back Track ออก แล้วเติมก้อนน้ำหนักจาก Front Track เข้าไปที่รางด้านหลัง ถึงตอนนี้น้ำหนักหัวไดรเวอร์จะเป็น 189.1 กรัม

     เมื่อลูกของท่านแข็งแรงขึ้นมาอีก ก็เติมก้อนน้ำหนักทั้ง 2 ก้อน กลับไปที่รางของมันเองทั้ง 2 ก้อน น้ำหนักหัวไดรเวอร์ ก็จะกลับมาอยู่ในระดับปกติคือ 198.4 กรัม ครับ

     ประโยชน์ของการมีก้อนน้ำหนัก 2 ก้อนนี้ ทำให้ท่านสามารถปรับน้ำหนักหัว Swing Weight ของไดรเวอร์ลูกของท่านได้ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซื้อไดรเวอร์ใหม่ครับ ปรับได้ตั้งแต่ 175.7 , 184.8 , 189.1 และ 198.4 กรัม ส่วนต่างของน้ำหนักหัวมากที่สุดกับน้อยที่สุดเทียบเท่าค่า Swing Weight ราว 11.5 Points ครับ ถ้าคิดว่าไดรเวอร์ M1 รุ่น Asian Spec ใส่ก้านน้ำหนัก 57 กรัม มาในหัวน้ำหนักปกติ ซึ่งมีค่า Swing Weight ที่ D2 การถอดก้อนน้ำหนักออกจนหมด Swing Weight จะทำได้ต่ำสุดที่ราว C0 เลยครับ

M1 ช่วยให้นักกอล์ฟซีเนียร์ต่อก้านไดรเวอร์ให้ยาวขึ้น

     นักกอล์ฟซีเนียร์หลายๆ คน มักนิยมโมไดรเวอร์ให้ก้านยาวขึ้น เพื่อเพิ่มความเร็วหัวไม้ ซึ่งในอดีตไดรเวอร์ที่สามารถโมให้ยาวขึ้น จะต้องเป็นหัวที่มีน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่แล้ว หัวไดรเวอร์เบาๆ ในตลาดจะอยู่ในระดับ 185-193 กรัม แต่สำหรับ M1 สามารถถอดก้อนน้ำหนักออก แล้วทำให้หัวไดรเวอร์หนักเพียง 175.7 และ 184.8 กรัมเท่านั้น ท่านสามารถนำไปโมให้ไดรเวอร์ยาว 46,47 หรือ 48 นิ้ว ได้โดยที่ค่า Swing Weight ไม่มากจนเกินไปครับ และไม่ให้ก้านโหลดน้ำหนักมากเกินไป จนก้านดีดดิ้น ไม่นิ่งครับ

M1 ช่วยให้สุภาพสตรีมีไดรเวอร์ Swing Weight เบาๆ ใช้

     ไดรเวอร์ M1 มีองศา 12 เป็นตัวเลือก สำหรับนักกอล์ฟสุภาพสตรีด้วยครับ สุภาพสตรีอาจเลือกใช้วิธีการลด Swing Weight ได้ 2 วิธี คือ ตัดก้านให้สั้นลง 1 นิ้ว อาจลด Swing Weight ได้ราว 5 Points  หรือ ถอดก้อนน้ำหนักออกสัก 1 ก้อน Swing Weight ก็ลดลงได้ 5 Points เช่นกันครับ

     ทั้งหมดที่เขียนเล่ามา เป็นเหตุผลที่ผมคิดว่า ไดรเวอร์ M1 สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการของนักกอล์ฟทุกระดับฝีมือ ทุกอายุ ทุกความแข็งแรง ครับ ไว้ครั้งหน้า ผมจะมาเขียนเล่า เทคนิคการปรับแต่ง M1 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เทคนิคการปรับแต่งอย่างไร ให้ตีไกลที่สุด และเข้าเป้ามากที่สุด เหมือนกับที่โปรในทัวร์เค้าปรับแต่งกันครับ       

เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

Chalermwong B.Kajorn

ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.

3 / 10  /2559

https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/

Official Line : @golferonline

    Tags : Driver , Wood , Woods ไดรเวอร์ , ไดร์เวอร์  ไดรฟเวอร์