Titleist 917 SureFit CG Technology
เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
14 Sep 2016
- Shares:
เป็นเวลากว่า 5 ปี ที่ทีมวิจัยของ Titleist ซุ่มพัฒนาไดรเวอร์รุ่นแรกของ Titleist ที่สามารถปรับแต่งตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงได้ โดยเทคโนโลยีของ 917 รุ่นใหม่ “ทีมพัฒนาหัวไม้ Titleist พยายามค้นหา และนำเทคโนโลยีล่าสุดมาสู่นักกอล์ฟ โดยโจทย์ในการออกแบบคือต้องทำให้หัวไม้ มีประสิทธิภาพสูงครบทุกด้าน SureFit CG คือ เทคโนโลยีใหม่ ที่เรานำมาใช้ เป็นไฮไลท์ของไดรเวอร์รุ่นนี้ และเราให้ความสำคัญกับการเทคโนโลยีนี้” กล่าวโดย Stephanie Luttrell, ตำแหน่ง ผู้อำนวยการพัฒนาหัวไม้ของแบรนด์ Titleist “เราใช้เวลามากกว่าห้าปี ในการวิจัยและทดสอบ เพื่อทำให้ระบบนี้สมบูรณ์แบบ เป้าหมายอย่างแรกคือ เทคโนโลยีนี้ยังคงสามารถรักษาค่า MOI ให้สูงอยู่ และหัวไม้ยังให้การชดเชยความผิดพลาดสูง ในทุกตำแหน่งของการปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วง นอกจากนี้ เราทำให้การปรับตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วง มีผลต่อการใช้งานของนักกอล์ฟอย่างแท้จริง วิธีการที่เราออกแบบ SureFit CG แตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง ทำให้เราสามารถควบคุมสปินในตำแหน่งที่เฟด และดรอว์ได้อย่างเหมาะสม ทำให้ตีได้สปินของลูก และลักษณะของช็อตที่สม่ำเสมอ ที่สำคัญเทคโนโลยีของเรายังคงสามารถรักษาค่า MOI ให้สูงในทุกตำแหน่งการปรับ ทำให้ความเร็วลูกกอล์ฟสูงสุด ในช็อตที่พลาดกลางหน้าไม้ ”
เทคโนโลยี SureFit CG ไฮไลท์ของไดรเวอร์รุ่น 917 เป็นระบบน้ำหนักที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ โดยใช้แท่งน้ำหนัก SureFit CG ถูกจัดวางตำแหน่งไว้ที่หัวไม้อย่างเหมาะสมที่สุด โดยการใส่ไว้ในแนวเฉียงส่วนท้ายสุดของฐานด้านล่าง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้ไดรเวอร์มีค่า MOI สูงสุด และจุดศูนย์ถ่วงอยู่ด้านล่างและลึกมาทางด้านหลังมากที่สุด
แท่งน้ำหนัก SureFit CG สามารถปรับน้ำหนักจากตรงกลาง (Neutral) ไปที่ตำแหน่งดรอว์ (Draw) โดยส่วนของน้ำหนักจะอยู่เยื้องไปทางด้านโคนและลึกไปด้านหลังยิ่งขึ้น หรือปรับไปที่ตำแหน่งเฟด (Fade) ที่น้ำหนักจะอยู่เยื้องไปทางส่วนปลายไม้ และมาทางด้านหน้ามากขึ้น ทุกตำแหน่งของการปรับแท่งน้ำหนัก SureFit CG มีผลต่ออัตราการสแควร์ของหน้าไม้ และไซด์สปินที่เกิดจาก gear-effect ทำให้นักกอล์ฟสามารถปรับวิถีลูก และลักษณะของช็อตตามที่ต้องการ
ทีมวิจัยเทคโนโลยี SureFit CG ย้ำเสมอว่า เทคโนโลยีการปรับตำแหน่งจุดศูนย์ถ่วงในรุ่น 917 ออกแบบให้ทุกตำแหน่งที่ปรับไม่ทำให้ค่า MOI ของหัวไม้มีค่าลดลง จึงทำให้ไดรเวอร์ ยังคงคุณสมบัติชดเชยความผิดพลาดสูง และตีได้ระยะทาง
SureFit CG ยังทำให้เราสามารถปรับน้ำหนักหัวเปล่า เพื่อปรับบาล้านซ์ ปรับ Swing Weight ให้เหมาะสมกับก้านรุ่นต่างๆ หรือเพื่อให้ตรงตามความต้องการของนักกอล์ฟ(+/- 4 กรัม) จากแท่งน้ำหนักมาตรฐาน
นอกจากเทคโนโลยี SureFit CG ไฮไลท์ของไดรเวอร์ 917 แล้ว เทคโนโลยีหน้าไม้และร่องยังมีการปรับปรุงพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นดังต่อไปนี้
Active Recoil Channel (ARC) 2.0 ออกแบบร่องที่กว้าง ยาว และลึก ที่ฐานด้านล่าง ให้การยุบ และดีดตัวที่เหมาะสม ขณะหน้าไม้ปะทะลูก ทำให้ลูกกอล์ฟออกจากหน้าไม้ ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น และสปินต่ำลง ทำให้ตีได้ไกลขึ้น ความหนาของร่อง ถูกปรับแต่งให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตำแหน่งส่วนโคนไม้ และปลายไม้ ร่องถูกออกแบบให้บางลง เพื่อให้บริเวณส่วนปลายและโคนให้ตัวง่ายกว่าส่วนกลาง เมื่อมีแรงเข้ามากระทบ การขยับตัวการดีดตัวของหน้าไม้ จะดีดตัวทั้งแผ่น และมีการดีดตัวในอัตราที่สม่ำเสมอขึ้น ส่งผลให้ และความเร็วของลูกกอล์ฟที่ออกจากหน้าไม้สูงขึ้นในอัตราที่ส่ำเสมอ
หน้าไม้ Radial Speed Face 2.0 หน้าไม้แบบฟอร์จ สร้างความเร็วได้สูง ทำงานร่วมกันกับร่อง ARC 2.0 ให้ความเร็วลูกกอล์ฟที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก เมื่อตีพลาดกลางหน้าไม้ ให้ระยะทางรวมที่ไกลยิ่งขึ้น
คอไม้ SureFit เทคโนโลยีที่อยู่ในไดรเวอร์ Titleist มาหลายต่อหลายรุ่น เป็นเทคโนโลยีที่สามารถปรับแต่งองศาหน้าไม้ และมุม Lie Angle ได้ 16 ตำแหน่งอย่างอิสระต่อกัน เพื่อการปรับแต่งวิถีลูกให้เหมาะสมที่สุด รวมถึงให้ประสิทธิภาพในการควบคุมลูกที่ดีขึ้น และตีได้ไกลขึ้น.
Titleist วางตลาดสองรุ่น (917D2 และ 917D3) เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับนักกอล์ฟ ทั้งสองรุ่นมีประสิทธิภาพแตกต่างกัน ในด้านสปิน และวิถีลูก เพื่อความเหมาะสมในการฟิตติ้งมากที่สุด ให้วิถีลูกที่แม่นยำ และให้ลักษณะของช็อตที่เหมาะสมกับผู้เล่นมากที่สุด
- 917D2 ตีไกล เน้นการชดเชยความผิดพลาดสูงๆ รูปทรงลูกแพร์ ขนาดใหญ่ 460cc 917D2 ชดเชยความผิดพลาดสูงกว่า และให้วิถีลูกสูงกว่า โดยให้สปินที่สูงกว่าประมาณ 250rpm เมื่อเปรียบเทียบกับ 917D3 (องศาหน้าไม้ที่วางตลาด 8.5º, 9.5º, 10.5º และ 12º)
- 917D3 ตีไกล เน้นให้ประสิทธิภาพสูงในการควบคุมช็อตโดดเด่นกว่า รูปทรงลูกแพร์แบบดั้งเดิม ที่นักกอล์ฟในทัวร์ชื่นชอบ ขนาด 440cc 917D3 ให้ประสิทธิภาพในการเล่นแต่งช็อตสูงกว่า และให้สปินต่ำกว่าประมาณ 250 rpm เมื่อเปรียบเทียบกับ 917D2. (องศาหน้าไม้ที่วางตลาด 8.5º, 9.5º, และ 10.5º)
- ในการทดสอบโดยนักกอล์ฟ นักกอล์ฟที่ฟิตติ้งไดรเวอร์ 917D2 หรือ 917D3 อย่างเหมาะสม สามารถสร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงขึ้น 0.5-1 mph และสปินต่ำลง 100-200 rpm เมื่อเปรียบเทียบกับ 915D2 หรือ 915D3 – ทำให้ได้ระยะแครี่เฉลี่ยไกลขึ้น สามถึงห้าหลา ด้วยไดรเวอร์ 917 ทั้งสองรุ่น นักกอล์ฟสามารถสร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงอย่างสม่ำเสมอ และตีได้สปินที่ต่ำลง จากทั่วทั้งหน้าไม้ เมื่อเปรียบเทียบกับไดรเวอร์ 915 การปรับแต่งแท่งน้ำหนัก SureFit CG สำหรับนักกอล์ฟแต่ละคน มีการปรับแต่งให้เหมาะสมแตกต่างกันไป โดยเฉลี่ยในอัตราที่ใกล้เคียงกัน
ก้านสต็อกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากทัวร์: วางตลาดพร้อมก้านสต็อก ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ 4 รุ่น ซึ่งเป็นก้านแบบเดียวกันกับก้านสำหรับโมดิฟายด์ที่มีแยกขายในตลาดกอล์ฟ มาจากบริษัทผู้ผลิตก้านที่ได้รับความนิยมสูง ใน PGA Tour ทั้งสี่รุ่น ให้ประสิทธิภาพ ที่ครอบคลุมกลุ่มนักกอล์ฟทุกแบบ และทุกความเร็วสวิง
ก้านสต็อก มีความยาวมาตรฐานที่ 45 นิ้ว ประกอบด้วย Aldila Rogue M*AX 65 (มุมเหินต่ำถึงปานกลาง); Mitsubishi Diamana Limited D+ White 70 (มุมเหินต่ำ), Mitsubishi Diamana Limited S+ Blue 60 (มุมเหินปานกลาง) และ Mitsubishi Diamana Limited M+ Red 50 (มุมเหินสูง)
![](http://golferdigital.com/images/articles/2180b36ab5.jpg)
นอกจากนี้ นักกอล์ฟยังสามารถสั่งซื้อก้านคัสตอมรุ่นอื่นๆ ตามต้องการจากตัวแทนจำหน่ายของ Titleist โดยมีรุ่นให้เลือกอย่างหลากหลาย
![](http://golferdigital.com/images/articles/21945464d8.jpg)
ราคา และการวางตลาด: ไดรเวอร์ Titleist 917 วางตลาดพร้อมกันทั่วโลก ที่ตัวแทนจำหน่ายของ Titleist ในวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยมีราคาเต็มที่ 24,100 บาท และราคาขายตามร้านค้าที่มีส่วนลดแล้วราว 19,280 บาท
ไดรเวอร์รุ่น 917 มีรูปทรง และโครงสร้างของหัวที่เหมาะสม ออกแบบเพื่อให้มีความถี่เสียง ขณะหน้าไม้ปะทะลูกตามเป้าหมายที่ต้องการ ให้เสียง และความรู้สีก ในแบบที่นักกอล์ฟชั้นนำของโลกต้องการ แท่งน้ำหนัก SureFit CG สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับการสวิง โดยให้ตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วง อยู่ในตำแหน่งที่หน้าไม้ปะทะลูก ให้ ความรู้สึกหนักแน่นยิ่งขึ้น ไดรเวอร์ 917 มีสีของหัวแบบใหม่ ที่เรียกว่า “liquid slate” สีที่นักกอล์ฟในทัวร์ชื่นชอบ และช่วยเพิ่มความมั่นใจ
![](http://golferdigital.com/images/articles/21953f6e92.jpg)
“ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างทรงพลัง ระหว่างคอไม้ SureFit และ SureFit CG ยกระดับของการปรับแต่ง เพื่อสปินของลูกกอล์ฟที่เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการตีให้ไกลที่สุด ขึ้นไปอีกระดับ” กล่าวโดย Dan Stone, Vice President, Titleist Golf Club R&D “หลังจากการทดสอบโดยผู้เล่นแบบเจาะลึก เราพบว่าถ้านักกอล์ฟได้ใช้ไม้กอล์ฟที่มีตำแหน่งของ CG ที่เหมาะสม พวกเขาสามารถสแควร์หน้าไม้ได้ง่ายขึ้น ทำให้ตีได้อย่างสม่ำเสมอยิ่งขึ้น แน่นอนว่าพวกเขาจะตีเข้ากลางหน้าไม้ ได้บ่อยครั้งยิ่งขึ้น ทำให้ความเร็วหัวไม้ และความเร็วลูกกอล์ฟสูงขึ้น รวมถึงให้ทิศทางของลูกที่สม่ำเสมอยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เราพบว่าผลลัพธ์จากประสิทธิภาพที่พัฒนาขึ้นข้างต้น รวมถึงความรู้สึกที่ยิ่งขึ้น ขณะหน้าไม้ปะทะลูก ทำให้นักกอล์ฟมีความมั่นใจมากขึน ในการสวิงในหนักแน่นและรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟ และระยะทาง”
ไดรเวอร์ 917 กับนักกอล์ฟในทัวร์: ไดรเวอร์ Titleist 917 ได้รับความเชื่อมั่นอย่างล้มหลาม และประสบความสำเร็จแล้ว ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพในทัวร์ ผู้เล่นในทัวร์ มากกว่า 150 คน เปลี่ยนมาใช้ไดรเวอร์ 917 รุ่นใหม่แล้ว ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพทั่วโลก หลังจากที่เรา นำมาให้นักกอล์ฟในทัวร์ได้ทดลองเป็นครั้งแรกที่การแข่งขันรายการ Quicken Loans National สนาม Congressional ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา – นักกอล์ฟชื่อดังที่เปลี่ยนมาใช้ไดรเวอร์ 917 แล้ว ประกอบด้วย Adam Scott (917D2 9.5º), Jimmy Walker (917D2 8.5º), Bill Haas (917D2 9.5º), Byeong Hun An (917D3 8.5º), Justin Thomas (917D3 9.5º), Charley Hoffman (917D2 8.5º), Scott Piercy (917D2 8.5º), Jason Dufner (917D2 10.5º) และ Webb Simpson (917D3 10.5º).
Jimmy Walker ทดสอบไดรเวอร์ 917 รุ่นต้นแบบ ครั้งแรกในเดือนมกราคม ที่ Titleist Performance Institute ใน Oceanside, California หลังจากนั้น เขานำไดรเวอร์ Titleist 917D2 (8.5º) ลงแข่งขันเป็นครั้งแรก ที่รายการ World Golf Championships สนาม Firestone หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน Walker คว้าแชมป์ PGA Championship ที่ Baltusrol แชมป์เมเจอร์รายการแรกของเขาได้สำเร็จ
“ผมใช้ 917D2 รุ่นใหม่ลงแข่งขัน เพราะมันให้ความเร็วลูกกอล์ฟที่สูงขึ้น มีเสียง และให้ความรู้สึกที่ดีขึ้น ผมชอบรูปทรงของมันมากเช่นกัน” Walker กล่าว “ในทางประสิทธิภาพ ผมพบว่าจุดสวีทสป็อตของมันต่ำลง และผมตีได้สปินของลูกกอล์ฟต่ำลง ตามที่ต้องการ วิถีลูกเป็นในแบบที่ผมต้องการ คือ ไม่ลอยสูงมากเกินไป ผมสามารถตีลูกลอยแบบควบคุมได้ที่ระยะแครี่ 295-310 หลา ตามที่ต้องการ ทั้งไกล และตรง ผมมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตีเข้าหาลม”
ในการแข่งขันกอล์ฟ PGA Championship, Byeong Hun An คว้าแชมป์การแข่งขันตีไกล เขาใช้ไดรเวอร์ Titleist 917D3 (8.5º) ตีได้ระยะ 347 หลา ที่หลุมแรกของสนาม Baltusrol “ช็อตที่ผมพลาด จะแค่ตรงไปทางขวาเล็กน้อย ในทิศทางที่ต้องการ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันตีได้ไกลกว่า 915D4 ที่ผมใช้มาก่อน” An กล่าว
เพียงแค่การแข่งขันรายการที่สองที่เขานำไดรเวอร์ 917D2 8.5º รุ่นใหม่ มาใช้ Greg Chalmers คว้าแชมป์ Barracuda Championship แชมป์ PGA Tour รายการแรกในการเล่นกอล์ฟอาชีพของเขา เขาให้สัมภาษณ์ที่หลุม 18 หลังจบการแข่งขัน โดยกล่าวกับ Golf Channel ว่า: “ต้องขอบคุณ Titleist ผมได้รับไดรเวอร์ 917 รุ่นใหม่ ซึ่งทำให้ผมตีได้ไกลขึ้น ผมไดร์ฟลูกได้ตรงขึ้น ไดร์ฟลูกได้อย่างสวยงาม…”
![](http://golferdigital.com/images/articles/2187c4965b.jpg)
หนึ่งสัปดาห์ หลังจาก Justin Thomas นำไดรเวอร์ 917D3 9.5º มาใช้ในการแข่งขัน เขาตีได้ระยะ 414 หลา ในหลุม 16 พาร์ 5 ระยะ 667 หลา ของสนาม Firestone Country Club และนี่เป็นสถิติระยะไดร์ฟที่ไกลที่สุดใน PGA Tour
“มันเป็นการสวิงที่รุนแรงที่สุด เท่าที่ผมเคยทำมา” Thomas กล่าว เขาทำอีเกิ้ลได้ที่หลุมนั้น “หลังจากที่ผมตีมัน ผมรู้สึกได้…”
ข้อมูลอัพเดทเพิ่มเติมของ 917 ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพทั่วโลก สามารถเข้าไปดูได้ที่ titleist.co.th
ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก
วัชระ กาฬภักดี – ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ และการตลาด Titleist, บริษัท แอคูชเน็ท กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-751-4082 ต่อ 443, 086-312-9033
Tags : Driver , Wood , Woods ไดรเวอร์ , ไดร์เวอร์ , ไดรฟเวอร์ หัวไม้หนึ่ง หัวไม้ 1 Metal Wood
Related to
http://www.titleist.com/golf-clubs/drivers/917d2http://www.titleist.com/golf-clubs/drivers/917d3