สัปดาห์ที่แล้วเขียนเรื่องไม้กอล์ฟในตระกูล M4 ไป มีนักกอล์ฟขอให้เขียนเรื่อง M3 บ้าง ซึ่งทุกวันนี้เป็นคำถามที่มักถูกถามคู่ขนานกันเสมอ เมื่อเขียนหรือพูดถึง M4 ก็จะมีคนถาม M3 เมื่อกล่าวถึง M3 ก็มีคนถามถึง M4

     โดยสรุปแล้ว ถ้านักกอล์ฟมองหาไม้ที่เน้นตีง่าย ทำระยะแครี่ดี ให้เล็งไปที่ M4 เท่านั้น ส่วนนักกอล์ฟที่มองหาไม้กอล์ฟที่เน้นตีมัน หนักแน่น ปรับแต่งลักษณะไม้ได้หลากหลายกว่า M4 ยังไงก็ต้องเล่น M3

       หัวไม้ M3 ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นไม้ที่ตีง่าย ชดเชยความผิดพลาดดี ที่ให้วิถีลูกปานกลาง ค่อนไปทางต่ำ ออกแบบสำหรับนักกอล์ฟฝีมือดี ที่มีทักษะในการปรับแต่งไฟล์ทบอลให้พุ่งต่ำสู้ลมหรือสูงให้ได้ระยะแครี่ไกล ฉะนั้นนักกอล์ฟสมัครเล่นที่มีปัญหาตีไฟล์ทบอลต่ำ ตีลูกไม่ค่อยลอย จึงอาจไม่เหมาะกับ M3 นัก ตัว M4 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า

      นอกจากนั้นแล้ว M3 ยังออกแบบให้ได้ฟิลลิ่งดี ตีมัน หนักแน่น เพราะการออกแบบจุดศูนย์ถ่วงจะอยู่ในตำแหน่งที่สูง และค่อนมาทางด้านหน้ากว่า M3 ทำให้นักกอล์ฟได้สัมผัสฟิลลิ่งที่ดีๆ การตี ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้มือดี ที่ยังอยากได้ฟิลลิ่งนี้ ยังไงก็ต้องเลือกหัวไม้ M3 มากกว่า M4

     ไดรเวอร์ M3 เป็นไดรเวอร์ที่สามารถปรับแต่งจุดศูนย์ถ่วงได้โดยใช้เทคโนโลยี Y-Track System นักกอล์ฟสามารถเลื่อนก้อนน้ำหนักเพื่อปรับแต่งให้วิถีลูกพุ่งต่ำ หรือสูงได้ตามต้องการ การใช้เทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์ ช่วยประหยัดน้ำหนักโครงสร้างหลักของไดรเวอร์สามารถนำน้ำหนักที่เซฟได้ ไปกระจายไว้รอบๆ หัวไม้ เพื่อเพิ่มค่า M.O.I. ให้สูงขึ้น ทำให้ไม้ชดเชยความผิดพลาดดี นอกจากนั้นแล้ว เทคโนโลยี Speed Pocket ในรูปแบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า HAMMERHEAD SLOT ยังเป็นหัวใจหลักในการสร้างและรักษาความเร็วลูกกอล์ฟให้สูงสุดตอบสนองทุกย่านความเร็วของนักกอล์ฟทุกระดับ สำคัญที่สุดในปีนี้คือ เทคโนโลยี Twist Face เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยชดเชยวิถีลูกให้โค้งกลับเข้าหาเป้าหมาย เมื่อนักกอล์ฟตีพลาดไปจากกลางหน้าไม้ ไม่ว่าจะพลาดไปทางปลายไม้หรือคอไม้ก็ตาม ลูกกอล์ฟจะถูกชดเชยให้เลี้ยวกลับเข้าหาเป้าหมายได้อย่างดีเยี่ยม

     แฟร์เวย์ M3 เป็นแฟร์เวย์ที่ให้วิถีลูกพุ่งทะลุทะลวง แต่ตีง่าย ซึ่งเกิดมาจากผลพวงของ การใช้ไฟเบอร์เป็นส่วนประกอบ ช่วยเซฟน้ำหนักโครงสร้างหลัก นำไปใช้เป็นก้อนน้ำหนัก 29 กรัม ในรางสไลด์ Sliding Sole Weight ซึ่งนอกจากจะช่วยจะใช้ปรับจุดศูนย์ถ่วงช่วยตีเฟด ตีดรอว์ แก้สไลซ์ แก้ฮุค แล้ว ยังทำให้จุดศูนย์ถ่วงของแฟร์เวย์ต่ำลง ทำให้ตีง่ายขึ้นมากๆ โดยที่ยังได้อารมณ์ความหนักแน่นอยู่ เทคโนโลยี Speed Pocket ช่วยให้ลูกกอล์ฟพุ่งออกจากหน้าไม้ด้วยความเร็วที่สูง ช่วยให้ M3 เป็นแฟร์เวย์พุ่งต่ำ แต่ก็ทำระยะได้ดีด้วย

     ไฮบริด M3  ชื่อแบรนด์ TaylorMade เป็นชื่อที่การันตีคุณสมบัติไฮบริดภายใต้แบรนด์นี้อยู่แล้ว ว่ามีคุณสมบัติคับแก้ว เพราะเป็นแบรนด์ที่พัฒนาหัวไม้ไฮบริดต่อเนื่องมายาวนานกว่าทุกๆ แบรนด์ โดยไฮบริด 3 มีขนาดหัวค่อนไปทางไซส์เล็ก เพรียว ใครชอบไฮบริดหัวเล็ก M3 เป็นไฮบริดที่น่าสนใจมาก จรดแล้วกะทัดรัด ให้ความรู้สึกมั่นใจเมื่อต้องเล่นลูกเชฟช็อต ไฮบริดที่ขนาดหัวไม่ใหญ่เกินไป จะทำให้การบังคับเฟด ดรอว์ ง่ายกว่าไอบริดที่หัวใหญ่เกินไป ข้อดีของไฮบริด M3 ที่มีมากกว่า M4 คือเทคโนโลยี Sliding Weight รางสไลด์ปรับน้ำหนัก เพื่อช่วยปรับแต่งวิถีลูกให้พุ่งตรงเข้าหาเป้าหมาย อย่างที่เราต้องการ  การใช้เทคโนโลยี Speed Pocket ช่วยเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟทำให้เป็นไฮบริดที่ทำระยะได้ค่อนข้างดี นักกอล์ฟฝีมือดี ที่มองหาไฮบริดขนาดเล็ก สมส่วน ตีง่าย วิถีลูกพุ่งต่ำ ตกแต่งช็อตตีเข้าหากรีนแม่นๆ ในช็อต 2 พาร์ 5 ควรหาโอกาสลองไฮบริดรุ่นนี้ไว้

ทั้งหมดนี้คือเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีในแต่ละไม้ในชุดไม้กอล์ฟตระกูล M3 ไล่เรียงมาตั้งแต่ไดรเวอร์ แฟร์เวย์ ไฮบริด  ทุกไม้ล้วนออกแบบเพื่อการชดเชยความผิดพลาดที่ดี การรักษาความเร็วลูกกอล์ฟให้อยู่ในระดับสูงในช็อตที่ตีพลาด และรีดความเร็วลูกกอล์ฟให้สูงสุดเมื่อตีเข้ากลางหน้าไม้ และจัดวางจุดศูนย์ถ่วงให้อยู่ในตำแหน่งที่จะช่วยให้นักกอล์ฟมือดี ตีง่าย แต่ยังได้ฟิลลิ่งหนักแน่น มันๆ อยู่ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นคำตอบว่าทำไมไม้กอล์ฟในตระกูล M3 จึงตอบโจทย์ความต้องการนักกอล์ฟมือดีทุกระดับ

     หากท่านนักกอล์ฟที่กำลังหาชุดกอล์ฟสไตล์นี้ อย่ารีรอ จัดไป!! อย่าให้พลาด  

เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

Chalermwong B.Kajorn

18/3/2018

https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/

แอดไลน์เพิ่มเพื่อน เพื่อเข้ามาสอบถามเรื่องอุปกรณ์กอล์ฟได้ที่ 

Official Line : @golferonline

หรือกดลิ้งค์

https://line.me/R/ti/p/%40golferonline

Tags : Driver Woods หัวไม้ ไดรเวอร์ ไดร์เวอร์ ไดรฟเวอร์  Fairways แฟร์เวย์ Hybrids Recue ไฮบริด Irons เหล็ก