เหล็กสั้นเบ่งเอา หรือ เหล็กยาวตีสบาย
เรียบเรียงโดย พิศณุ นิลกลัด
04 Jul 2017
- Shares:
ในภาวะ “2 จิต 2 ใจ” เลือกยังไงดี?
ตอนยืนวางแผนจะตีช็อตแอ็พโพรชขึ้นกรีนแบบต้อง
ตีเต็มวง ท่านเคยตกอยู่ในสถานการณ์ก้ำกึ่งระหว่าง
เหล็ก 2 เบอร์แบบว่าจะชักเหล็ก 8 หรือเหล็ก 9
ดีมั๊ยครับ?
นักกอล์ฟทุกท่านล้วนเคยมี “อารมณ์นี้” ด้วยกันทุกคน มือ
แฮนดิแคปไม่เกิน 15 จะมีอาการ 2 จิต 2 ใจบ่อยครั้งกว่ามือแต้มต่อ 24 ถึง 36 เพราะเริ่มตีเหล็กทุกอันได้ระยะตามสมรรถนะของเหล็กแต่ละเบอร์แล้ว
ครูกอล์ฟฝรั่งบอกว่าในสถานการณ์ลังเลระหว่างเหล็ก 2 เบอร์ นักกอล์ฟที่มีวงสวิงแข็งแรงมากกว่าจะได้เปรียบคนที่วงสวิงไม่แกร่งเพราะคอนโทรลเหล็กได้ดีกว่าทั้งความเร็วของหัวเหล็กและแนวของวงสวิง (swing plane)
แต่ไม่ว่าจะแข็งแรงมากหรือแข็งแรงน้อย ต้องยึดหลักในการตัดสินใจเลือกเหล็กเหมือนกันคือ......
1) ถ้าเป็นเหล็กสั้น (ตั้งแต่เหล็ก 7 ลงไปจนถึงเวดจ์) ให้เลือกอันที่สั้นกว่า (เช่นเลือก 8 แทนที่จะเป็น 7) แล้วสวิงให้แรงขึ้นกว่าปกติ
ถ้าเป็นเหล็กกลางและเหล็กยาว (ตั้งแต่เหล็ก 6 จนถึงเหล็ก 3) ถ้าก้ำกึ่งระหว่างเหล็ก 2 เบอร์ ให้เลือกอันที่ยาวกว่าแล้วสวิงแบบสบายๆ (swing easier)
ทำไมจึงเลือกแบบนี้ ?
ตอบว่าเวลาแอ็พโพรชด้วยเหล็กสั้นให้เลือกอันที่สั้นกว่าแล้ว
ตีเน้นหรือตีแรงขึ้น เพราะเหล็กสั้นตีง่าย วงเล็ก ถึงจะตีเบ่งกว่าปกติอีกนิด โอกาสผิดพลาดก็มีไม่มาก
ส่วนเวลาตีเหล็กกลางและเหล็กยาวที่ต้องการระยะด้วย เช่นเหล็ก 5 หรือเหล็ก 4 ถ้าเราเลือกอันที่สั้นกว่าแล้วตีเบ่งหรือเร่งความเร็วของหัวเหล็กให้มากกว่าปกติโอกาสนำหน้าเหล็กเข้าปะทะลูกแบบสแควร์จะลดลง ผลก็คือ เสียทั้งระยะและทิศทาง โดนลงโทษทันที
ดังนั้นท่านจึงแนะนำว่าถ้าเกิดภาวะ 2 จิต 2 ใจ เวลาจะตีเหล็กกลางและเหล็กยาว ให้เลือกอันที่ยาวกว่า แล้วสวิงแบบสบายๆ การสวิงแบบสบายๆทำให้มีโอกาสนำหน้าเหล็กปะทะลูกให้สแควร์ง่ายกว่า
ทดลองเลือกเล่นตามคำสอนของครูฝรั่งดูเถิดครับ
พิศณุ นิลกลัด
ภาพ : LPGA Tour