ในอดีตเหล็กใบบาง หรือ ใบเล็กๆ มักเป็นเหล็กที่ตีไม่ไกลมากนัก แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถช่วยสร้างใบเหล็กที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ให้ตีได้ระยะทางที่ไกลขึ้น

     ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้ น่าจะสร้างความพอใจให้กับกลุ่มนักกอล์ฟที่นิยมชมชอบใบบางๆ ทำให้ใช้เหล็กใบบางแล้วยังตีได้ระยะทางที่ไกลได้อีกด้วย

     M1 ของ TaylorMade เป็นเหล็กที่ออกแบบปิดช่องโหว่ของเหล็กใบบางที่ผ่านมาได้อย่างลงตัวมากที่สุด

     โยเทคโนโลยีที่ถูกใส่ไว้ในเหล็กรุ่น M1 จะเหมือนกับที่ใช้ในรุ่น M2 ทุกประการ แต่ถูกย่อขนาดให้สลิมขึ้น สมส่วนมากขึ้น เพื่อให้ได้ความรู้สึกที่ดีในการจรดลูก

     M1 เป็นเหล็กรุ่นที่ตีไกล และมีระบบชดเชยความผิดพลาดแบบทุกทิศทุกทาง ไม่ว่านักกอล์ฟจะตีพลาดกลางหน้าไม้ไปทางใด ระบบชดเชยความผิดพลาดรอบกลางหน้าไม้ พร้อมที่จะทำงาน เพื่อรักษาความเร็วลูกกอล์ฟให้ยังมีค่าที่สูงอยู่ ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีที่ใช้ช่วยชดเชยความผิดพลาดมีดังต่อไปนี้

1.Speed Pocket Technology

     เทคโนโลยีที่สร้างชื่อในแฟร์เวย์ วูดตั้งแต่รุ่น RBZ จนเป็น Talk of the town หัวไม้แฟร์เวย์ตีไกลมาก

     หลักการทำงานของเทคโนโลยีนี้คือ การเซาะร่องบริเวณท้องใบเหล็กให้เป็นร่องลึก ตามความยาวของใบเหล็ก เพื่อทำให้ร่องนี้เกิดการยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าปกติ หากลองสังเกตภาพตัดใบเหล็กดู จะเห็นว่า โครงสร้างใบเหล็กของรุ่นนี้ออกแบบเป็น Pocket Cavity ไว้อยู่แล้ว เมื่อมีการเซาะร่องเพิ่มเข้ามาบริเวณท้องใบ จะทำให้ดูคล้ายกับบริเวณส่วนล่างของใบ พับงอเป็นรูปคล้ายกับสปริงซึ่งมีขดเกลียวอยู่  2 ขด พร้อมที่จะยืดหยุ่น ดีดตัว ช่วยเพิ่มความเร็วของลูกกอล์ฟ ซึ่งบริเวณ Speed Pocket จะช่วยชดเชยความผิดพลาดไม่ให้ความเร็วลูกกอล์ฟตกลงได้อย่างดีด้วย เมื่อเกิดการกระทบลูกบริเวณส่วนล่างของใบเหล็ก

2.Face Slots

     เทคโนโลยีสร้างชื่อไว้ในใบเหล็กรุ่น PSi โดยหลักการทำงานของเทคโนโลยีนี้คือ การทำร่องดัก 2 ข้าง บริเวณ Heel และ Toe ของใบเหล็ก โดยทำร่องอยู่ในแนวตั้ง ซึ่งหลักการนี้จะคล้ายๆ Speed Pocket คือ เพิ่มความยืดหยุ่นในบริเวณใกล้ๆ ร่อง ดังนั้นเมื่อมีการตีผิดพลาดมาทาง Heel หรือ Toe ก็ตาม เทคโนโลยี Face Slots จะช่วยรักษาความเร็วลูกกอล์ฟไว้ไม่ให้สูญเสียไปมากนัก

     อย่างที่จั่วหัวไม้แต่ต้นว่า เหล็กรุ่นใหม่ล่าสุด M1 ของ TaylorMade นั้น ได้ออกแบบระบบชดเชยความผิดพลาดไว้รอบทางจริงๆ ไม่ว่านักกอล์ฟจะตีพลาดกลางหน้าไม้ไปทางใดก็ตาม 2 เทคโนโลยีหลักที่กล่าวมา จะช่วยกันรักษาความเร็วของลูกกอล์ฟไว้ไม่ให้สูญเสียไปมากนัก และหากสามารถตีเข้ากลางหน้าไม้ได้แล้วละก็ บิงโก!!! ไกลสุดๆ

     เทคโนโลยี Geocoustic™ engineering techniques ออกแบบโดยคำนึงถึงความรู้สึก ฟิลลิ่งของนักกอล์ฟ โดยการออกแบบมิติใบ เสียงลูกกระทบใบเหล็ก ให้ตอบสนองความรู้สึกดีๆ ให้กับนักกอล์ฟ ทำให้นักกอล์ฟรู้สึกว่า...

 มองใบแล้วใช่ ได้ยินเสียงแล้วโดนใจ....

เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

Chalermwong B.Kajorn

ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.

Irons ใบเหล็ก TaylorMade M1